พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่ขอนแก่นเข่าแทบทรุด เช่าพื้นที่ข้างร้านสะดวกซื้อเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว เปิดร้านได้เพียง 9 วัน ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง ไม่เว้นแม้กระทั้งเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 บาท ผู้เสียหายเล่าน้ำตาคลอเบ้าซัดคนร้าย “ผมหาเงินทุกวันก็เหนื่อย แต่คุณมาเอาเงินของผมไปแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ขอกันกินดีๆ ยังดีกว่า”
วันที่ 24 เมษายน 2567 นายสุรัก ยมรัตน์ อายุ 52 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ชาว ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวสำรวจดูภายในร้านขายก๋วยเตี๋ยวของตนเอง ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาชุมชนคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น และบริเวณป่าหญ้าหลังร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีคลองน้ำเล็ก ๆ ความลึกประมาณ 2 เมตร กั้นกลางระหว่างหลังร้านสะดวกซื้อกับถนนริมบึงหนองโคตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่องทางที่คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้เข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินมีค่า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวไปจนแทบไม่เหลือ แม้กระทั้งเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้สำหรับให้ลูกค้า ก็ถูกขโมยไปจนเกลี้ยง โดยคาดว่าคนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุในช่วงกลางดึกของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเองได้ปิดร้านและกลับบ้านไปแล้ว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 บาท
นายสุรัก เล่าว่า ตนเองได้มาเช่าพื้นที่บริเวณด้านข้างร้านสะดวกซื้อเพื่อขายก๋วยเตี๋ยว โดยจ่ายค่าเช่า 3,000 บาทต่อเดือน และได้ถือฤกษ์ดี เอาวันที่ 13 เม.ย.67 ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ในการเปิดร้านขายวันแรก เริ่มขายตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ก็ขายได้ตามปกติ มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั้งช่วงเช้าของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางมาเปิดร้าน เพื่อเตรียมขายก๋วยเตี๋ยว ก็พบความผิดปกติเกิดขึ้นภายในร้าน เช่น โต๊ะพับแบบผ้าใบสีดำที่ใช้นอนพัก มูลค่า 800 บาท หายไป พอไปดูพัดลมตั้งพื้น สีเขียว ที่ซื้อมา 700 บาทก็หายไปอีก ตนเองจึงสอบถามกับร้านขายของที่อยู่ติดกัน ก็ได้คำตอบว่า ร้านข้าง ๆ ถังน้ำหายไปเหมือนกัน ตนเองจึงแน่ใจแล้วว่า มีคนร้ายเข้ามาขโมยของในร้านไปแน่นอน จึงได้สำรวจดูทรัพย์อื่น ๆ ก็พบว่าไม่เหลืออยู่แล้ว เช่น เครื่องปั่นเครื่องเทศ สีเขียว มูลค่า 7,000 บาท เครื่องปั่นผลไม้ มูลค่า 2,000 บาท รวมทั้งชุดเครื่องปรุงและอุปกรณ์ในการทำก๋วยเตี๋ยวอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท
นายสุรัก เล่าด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้าว่า ทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไปมีค่ากับครอบครัวของตนเองมาก เพราะกว่าจะเก็บเงินมาซื้อได้แต่ละอย่างก็ต้องใช้เวลานาน กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทก็ยากเย็น และตนเองก็เพิ่งเปิดร้านขายได้เพียง 9 วัน ทุนก็ยังไม่ได้คืนกลับมาถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเอาอุปกรณ์ที่ใช้ทำมาหากินไปหมด ทำให้ตอนนี้รู้สึกท้อใจเป็นอย่างมากและขอปิดร้านทำใจก่อน โดยหลังเกิดเหตุตนเองได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด แล้ว และอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นการก่อเหตุที่ซ้ำเติมคนทำมาหากินเป็นอย่างมาก และหากคนร้ายเห็นข่าวนี้ตนเองขอฝากบอกว่า การเข้าไปอยู่ข้างในคุกคิดว่ามันสบายเหรอ ทำมาหากินอยู่ข้างนอก ทำอาชีพที่สุจริตดีกว่าไหม อย่ามาเบียดเบียนคนที่เขาทำมาหากินเลย ตนเองหาเงินทุกวันก็เหนื่อย แต่คุณมาเอาเงินของผมไปแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ขอกันกินดีๆ ยังดีกว่า
Leave a Response