หนุ่มพลัดพรากพ่อแม่18ปีออกตามหา

A5953FEC-03E2-45A4-AC7E-CF77266CB96C

หนุ่มพลัดพรากพ่อแม่18ปีออกตามหา เจอพ่อแต่พ่อติดยาเสพติดและทำร้ายร่างกายจึงออกตามหาแม่ แต่แม่มีครอบครัวใหม่จึงให้ไปอยู่กับยายที่อ.ภูผาม่าน

ยายสุดดีใจ หลานชายวัย 18 ปี ออกตามหาแม่จนเจอ เตรียมกลับมาอยู่กับยายรอวันปีใหม่ แม่ให้คำมั่นจะกลับมากอดตามที่ลูกขอ ขณะที่แม่เปิดใจ ถูกครอบครัวสามีเก่ากีดกันตบตีจนต้องหนีแถมไม่ให้ลูกมาเลี้ยงและไม่รู้ว่าไปใช้ชีวิตลำบากในสถานสงเคราะห์ ลั่นจะไม่ให้ลูกไปไหนอีกแล้ว ขณะที่สามีใหม่ใจกว้างพร้อมเป็นพ่อเลี้ยงด้วยความเต็มใจ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางสายใจ กุลด้วง อายุ 54 ปี ที่บ้านเลขที่  3 ม.5 บ้านนาน้ำซำ ต.ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นยายของน้องหนึ่ง หรือนายยศพัฒน์ ทองฉ่ำ อายุ 18 ปีคนที่ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามหามารดาผู้ให้กำเนิด ซึ่งมารดาก็คือ นางสาวฐิราพร หรือโบว์ อายุ 34 ปีลูกสาวของนางสายใจ กุลด้วง

นางสายใจ กุลด้วง (ยาย)

โดยนางสายใจ กุลด้วง  กล่าวว่า ทราบว่า ลูกสาวเคยมีสามีเป็นเจ้าของสวนยางพาราที่จ.ตรัง มีบุตรเป็นผู้ชาย 1 คน แต่ทั้งคู่เลิกกันช่วงหลานชายอายุประมาณ 1-2 เดือน โดยฝ่ายสามีและย่า ไม่ให้ลูกสาวยุ่งเกี่ยวกับหลานชาย และทำร้ายร่างกาย ลูกสาวจึงออกจากบ้านมา จากนั้นก็เดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบัน ลูกสาวก็มีครอบครัวใหม่แล้ว อาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยที่ทางบ้านไม่เคยรู้เรื่องว่า หลานชายถูกส่งไปให้สถานเลี้ยงเด็กยะลาดูแล  

กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา  ลูกสาวโทรศัพท์มาแจ้งว่า น้องหนึ่ง หรือนายยศพัฒน์ ทองฉ่ำ อายุ 18 ปี ลูกชายที่เกิดกับอดีตสามีเจ้าของสวนยางพารา ได้ตามหา และได้พูดคุยกันแล้ว ลูกชายต้องการจะอยู่ด้วย แต่มารดาไม่สะดวก เพราะต้องทำงานและดูแลครอบครัว  จึงให้น้องหนึ่งมาอยู่กับยายที่นาน้ำซำ ต.ภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น  ซึ่งตนก็ยินดีและดีใจมากที่มีหลานชาย และหลานชายจะมาอยู่ด้วย เพราะที่บ้านอยู่กันเพียงสองผัวเมีย และบิดาที่ชราแล้ว ถ้าหลานชายมาอยู่ด้วยก็จะได้ช่วยดูแลตา

ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับนางสาวฐิราพร หรือโบว์ แซ่ล้อ มารดาของน้องหนึ่ง  ซึ่งนางสาวโบว์  กล่าวว่า ดีใจเป็นที่สุด ที่ลูกชายตามหาและจะมาอยู่ด้วย เพราะการเลิกกับอดีตสามีนั้น เลิกเพราะสุดที่จะทนแล้วจึงจะมาอยู่กับพ่อแม่ แต่สามีและมารดา ทำร้าย ไม่ให้ลูกชายมาด้วย จึงคิดว่า หากลูกอยู่กับพ่อและย่าที่มีฐานะดีกว่า ก็จะดีกว่าอยู่กับแม่ เมื่อไปแล้วก็จะกลับมาเยี่ยมลูก ขณะนั้นลูกชายอายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น หลังจากเลิกกับสามีแล้วก็มีการติดต่อกับญาติฝ่ายสามีตลอด แต่ผ่านไป 3-4 เดือนก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงไม่รู้ว่า ลูกชายถูกครอบครัวฝ่ายสามีส่งไปให้สถานเลี้ยงเด็กยะลาเลี้ยงดู 

มารู้ความจริงทุกอย่าง ตอนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ติดต่อมา แจ้งว่ามีน้องหนึ่ง ตามหามารดา จึงได้คุยกับลูกชายและได้รู้ความจริงจากลูกชายว่า ถูกส่งเข้าไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กยะลา อยู่ในนั้นจนเรียนหนังสือจบ ป.6 คิดถึงพ่อกับแม่ จึงออกจากสถานเลี้ยงเด็ก มาตามหาพ่อ และได้เจอย่ากับพ่อ แต่อยู่ด้วยไม่ได้ เพราะพ่อติดยาเสพติดและทำร้ายร่างกาย จึงออกจากบ้านมาเพื่อทำงานเก็บเงินตามหาแม่ จนได้พบนายจ้าง ที่เป็นเจ้าของสวนสนุกเคลื่อนที่ รับเข้าทำงาน และได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท 

กระทั่งนายจ้างรับงานที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จึงมาทำงานกับนายจ้าง และได้รู้กับกับเพื่อนชาวอ.บ้านดุง จึงตามไปเที่ยวบ้านเพื่อนแล้วไม่มีรถกลับมาหานายจ้าง นายจ้างจึงเดินทางไปลงงานที่อื่น ทำให้ไม่มีที่ไป  จึงให้เพื่อนพามาพบตำรวจและขอความช่วยเหลือ ในการตามหามารดา จนมีการตามหากันจนเจอ

นางสาวโบว์ กล่าวอีกว่า ฟังเรื่องราวจากลูกชายแล้วตกใจ เสียใจ ไม่คิดว่าลูกชายที่มีทั้งพ่อ และแม้จะตกระกำลำบากขนาดนั้น เมื่อลูกชายตามหาแม่จนเจอกันแล้วคุยกันแล้ว จึงบอกลูกว่า ให้ไปอยู่กับยายและช่วยดูแลตาทวดและตายายแทนแม่ที่บ้าน ปีใหม่ แม่จะกลับมาหา ซึ่งลูกชายก็บอกว่า รอพี่ๆที่บ้านดุงว่างงงาน จะไปส่งหายายที่บ้าน จึงบอกลูกอีกว่า นับจากนี้ไปแม่ลูกจะได้กอดกัน อยู่ด้วยกัน ดูแลกันไปจนกว่าจะตายจากกัน ลูกชายก็บอกว่า จะอยู่กับแม่กับยาย จะไม่ไปไหนอีกแล้ว

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง