ขอนแก่นจับสึกพระ-ไล่ออกข้าราชการฉี่ม่วงกว่านับร้อย ผู้ว่าฯสั่งลุยเต็มที่จับทุกวันไม่มีหยุด ตรวจซ้ำทุกหมู่บ้านพบผิดฟันไม่เลี้ยง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 พ.ค.2567 ที่ห้องประชุมแก่นชัย ชั้น 5 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายไกรสร  กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์  วงษ์วิจารณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ ปปส.,สาธารณสุข และ กอรมน.ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจค้นคดียาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแกน ในพื้นที่เป้าหมายตลอดทั้งวันในวันนี้ รวม 55 จุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้รวม 74 ราย แยกเป็นผู้เสพ 42 ราย ผู้ค้า 27 ราย คดีอาวุธปืน 5 รายตรวจยึดของกลางยาบ้า 4,351 เม็ด ยาไอซ์ 6 กรัม อาวุธปืน 9 กระบอก ทั้งยังคงยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรวมมูลค่า 1,083,300 บาท

      นายไกรสร  กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การปฎิบัติตรวจค้นจับกุมคดียาเสพติดตลอดตั้งแต่เดือน ต.ค.2566 จนถึงวันนี้ตามปีงบประมาณ 2567 ขอนแก่นมีสถิติการจับกุมมากที่สุดในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนในความรับผิดชอบของ บช.ภ.4 และถือเป็นจังหวัดที่มีสถิติการจับกุมยาเสพติดมากที่สุดติดอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งจากข้อมูลยืนยันว่าขอนแก่นมีเพียงเฉพาะผู้ค้ารายย่อยและกลุ่มผู้เสพเท่านั้น ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ ซึ่งยอดของกลางการจับกุมทุกครั้งโดยเฉพาะยาบ้าจะอยู่ที่ต่อรายไม่เกินหลักหมื่นเม็ด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจเข้มและตรวจซ้ำทุกหมู่บ้านครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอเพื่อให้ยาเสพติดนั้นหมดไปจากพื้นที่อย่างยั่งยืน

      “เราเตรียมการและวางแผนในการประกาศสงครามกับยาเสพติดมาโดยตลอด ซึ่งสอดรับกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ดังนั้นการเข้มงวดตรวจสอบทุกหมู่บ้าน ลงลึกแยกย่อยทุกหลังคาเรือน จึงเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ทำให้การจับกุมของเรานั้นเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและจับทุกวัน และเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนวันนี้เรามีสถิติการตรวจค้น จับกุมพื้นที่เป้าหมายและพื้นที่ชุมชนมากกว่าปีที่ผ่านมาเป็นเท่าตัว”

      ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในปีที่ผ่านมา จังหวัดได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะข้าราชการกว่า 20,000 คน ซึ่งตรวจพบฉี่สีม่วง 96 รายทั้งหมดถูกให้ออกราชการและเข้าสู่ขั้นตอนของการบำบัด ขณะที่แผนงานปี 2567 ถึงวันนี้สุ่มตรวจฉี่ข้าราชการแม้กระทั่ง ผวจ.,รอง ผวจ.ปลัดจังหวัดและนายอำเภอ และข้าราชการทุกระดับไปแล้วกว่า 8,000 คน ตรวจพบสีม่วง  52 รายซึ่งได้ให้ออกจากราชการและเข้าสู่ขั้นตอนของการบำบัดรักษาทั้งหมดแล้ว เช่นเดียวกันกับพระสงฆ์ที่ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะและทำการสึกแล้ว 6 ราย ซึ่งการสุ่มตรวจ และตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย เป้าหมายกลุ่มเสี่ยง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจังหวัดมีทั้งหมดแล้ว ซึ่งหน่วยงานจะสนธิกำลังกันดำเนินงานอย่างเข้มงวดต่อไป