พ่อพามือปืนยิงหนุ่มพม่า มอบตัวกับผู้การฯแล้ว ยังไม่เผยมูลเหตุการฆ่า ตร.ตามยึดของกลางได้ครบ เตรียมแถลงข่าวบ่ายนี้
จากกรณีคนร้าย บุกยิงนาย จอ ชอ อ่อง ( Kyaw Swar Aong) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เสียชีวิต ภายในโรงพยาบาลขอนแก่น ขณะรอเข้ารับการผ่าตัด ที่ตึกอายุรกรรมชาย 6 ชั้น 5 ห้องพักผู้ป่วยรวม และล่าสุดทางการสืบสวนพบว่าเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอกในสังกัด ภ.จว.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากทีมสืบสวนที่คลี่คลายคดี มือปืนยิงแรงงานชาวพม่า ตายในรพ.ศูนย์ขอนแก่น ว่า ขณะนี้ มือปืน คือ ส.ต.อ.เต๊ก หรือ วีระพงษ์ อายุ 35 ปี ตำรวจสภ.พระยืน ซึ่งยังรับราชการเป็นตำรวจอยู่ โดยย้ายจาก สภ.เวฬุวันไปประจำพที่สภ. พระยืน เป็นมือปืนที่ลงมือยิงนาย จอ ชอ อ่อง ( Kyaw Swar Aong) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมาร์ นั้น ได้เข้ามอบตัวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยการเข้ามอบตัวนั้น เป็นบิดาพาเข้ามอบตัวในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังจากมอบตัว ก็พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพาไปตรวจยึดเสื้อผ้าชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระเป่าสะพายและรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีดำ ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน ขฉ-1997 ขอนแก่น ที่จอดอยู่ภายในบ้านพักในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบสวนขยายผลที่ งานสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อทราบถึงมูลเหตุของการลงมือฆ่าแรงงานพม่ารายดังกล่าวว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งในเบื้องต้นทราบจากผู้บังคับบัญชาว่า ส.ต.อ.เต๊ก ย้ายจากสภ.เวฬุวันมาอยู่ที่สภ.พระยืน เป็นคนทำงานดี แต่สุขภาพไม่อำนวย เพราะป่วยด้วยอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องคอยพบแพทย์และรับยามากินเพื่อรักษาอาการป่วยมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการก่อเหตุยิงแรงงานชาวพม่าในรพ.ศูนย์ขอนแก่นนั้น ข้าราชการตำรวจสภ.พระยืนไม่มีใครทราบเรื่องมาก่อน มาทราบอีกครั้งตอนที่มีภาพในวงจรปิดที่เผยแพร่ในข่าวของสื่อมวลชน และล่าสุดทราบว่าเข้ามอบตัวกับ ผบก.ภจว.ขอนแก่นแล้ว โดยจะมีการแถลงข่าวจากทาง พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผลก.ภ.จว.ขอนแก่น ให้ทราบอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้
โดยขณะนี้ทางทีมชุดสืบสวนได้นำรถยนต์ที่สิบตำรวจเอกวีนะพงษ์ ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ รวมทั้งอาวุธปืนสั้น 9 มม. มาที่ ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมทั้งหลักฐานจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่เก็บรวบรวมภายในโรงพยาบาลมามอบให้กับทางทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวด้วย โดยมี ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักมาติดตามรอทำข่าวซึ่งทางเจ้าที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปด้านบนอาคารแต่อย่างใด////
Leave a Response