เชฟดังเมืองสกลนครแปลงปลาส้มกับข้าวเกรียบเป็นเมนูคำละร้อย

IMG_8333

เชฟชื่อดังเมืองสกลนคร นำเอาปลาส้มไร้ก้างจากสหัสขันธ์เมืองกาฬสินธุ์ มารวมกับข้าวเกรียบสมุนไพรเครือตดหมา บ้านสาวะถี กลายเป็นเมนูทานเล่นเมนูใหม่ “ข้าวเกรียบยำปลาส้มน้ำพริกเผา” ตั้งราคาคำละ 100 บาท


นายศิริศักดิ์ วภักดิ์เพชร หรือเชฟหนุ่มน้อย จากร้าน House 1712 จ.สกลนคร ได้จัดแสดงการปรุงอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นของภาคอีสาน ประกอบด้วย ปลาส้มไร้ก้างจากบ้านคำคา อ.สหัสขันธ์ จ.กาสฬสินธุ์ และข้าวเกรียบสมุนไพรผสมเครือตดหมานางสุมณฑา ของแม่จันลา ดาวสาวะ บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นเมนูใหม่นั่นคือ “ข้าวเกรียบยำปลาส้มน้ำพริกเผา”

โดยการทำได้นำเอา ข้าวเกรียบที่ปิ้งแล้ว มาวางแล้วนำเอาปลาส้มที่ได้ปิ้งบนไฟเพื่อให้สุก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปรุงเครื่องด้วยน้ำพริกเผาสูตรพิเศษที่ทำเองจากปลากรอบและพริก หอม กระเทียม โดยเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน จากนั้นปรุงเครื่องด้วยมะนาว หัวหอมาและพริกสดที่ย่างไฟแล้ว คนให้เข้ากัน ก่อนจะนำมาวางบนข้าวเกรียบ และแต่งหน้าด้วยใบมะกรูด ผักชีใบเลื่อยและต่อด้วยใบผักติ้ว ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านของอีสานที่มีรสเปรี้ยว จากนั้นได้นำไปให้ผู้มาชมงานชิมโดยตั้งราคาไว้ที่คำละ 100 บาท

เรื่องนี้นายศิริศักดิ์ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ได้คิดทำเมนูนี้ หลังได้รับโจทย์ จากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ในการมาทำอาหารเพื่อพัฒนาเมนูใหม่ ในงานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ สะออนเด้ SE อยู่ดีมีสุข และพบว่าวัตถุดิบที่ได้มาเป็นปลาส้มและข้าวเกรียบสมุนไพรเครือตดหมาว่า ปกติตนได้คิดเมนูที่นำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำอยู่แล้ว โดยร้าน House 1712 เป็นร้านอาหารแบบ fine dining ที่เน้นค้นหาวัตถุดิบสำคัญในท้องถิ่นเพื่อมาปรุงให้เกิดเมนูเลิศรส และพอได้โจทย์ว่าเป็นปลาส้มและข้าวเกรียบทำให้คิดว่าคนอีสานชอบกินอะไร และหากคนภาคอื่นมากินควรจะเป็นเมนูอะไรที่กินได้ทุกคน เลยออกมาเป็นยำปลาส้มกินกับข้าวเกรียบ โดยเฉพาะรสชาติข้าวเกรียบที่หวานนิดหน่อยอยู่แล้วหากได้ทานกับปลาส้มที่เปรี้ยวและมีน้ำพริกเผาผสมด้วยก็จะได้อร่อยพอดี ประกอบกับตนได้นำเอาผักติ้วซึ่งเป็นผักพื้นบ้านมาทานแกล้มด้วยเป็นการเพิ่มคุณค่าผักพื้นบ้านที่เป็นผักปลอดสารพิษซึ่งเหมาะกับการกินอาหารเพื่อให้สุขภาพดี

ด้านนางสาวชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้ประสานงานโครงการสหัสขันธ์จูราสสิกแอนด์ทราเวล อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ดีใจที่เชฟหนุ่มน้อยได้พัฒนาเมนูอาหารใหม่ขึ้นมาให้กับชาวสหัสขันธ์ เพื่อจะได้เอาไปต่อยอดและเป็นอาหารเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยถือเป็นเมนูที่น่าสนใจทำไม่ยากและสามารถทำให้ชุมชนทำและนำไปต่อยอดต่อได้


สำหรับกิจกรรมประกอบอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นนี้ ดำเนินการโดย โครงการสะออนเด้อ SE อยู่ดีมีสุข ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ซึ่งอยู่ในเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ หรือ Isan creative Festival ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 7 กรกฎาคม 2567 ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จ.ขอนแก่น

Leave a Response

ใส่ความเห็น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง