ภาวะดื้อต่ออินซูลิน: ภัยเงียบที่ต้องระวัง

_dba74a9d-6391-4082-8583-c2ee9cd13685

                  ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) เกิดขึ้นเมื่อร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้น้อยลง ส่งผลให้อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายต้องผลิตอินซูลินเพิ่มมากขึ้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อันตรายของภาวะดื้อต่ออินซูลิน

  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคไขมันในเลือดผิดปกติ

น่ากังวลคือภาวะดื้อต่ออินซูลินมักไม่มีอาการที่ชัดเจน ดังนั้นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำโดยแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

กลุ่มเสี่ยงของภาวะดื้อต่ออินซูลิน

  • บุคคลที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง
  • บุคคลที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
  • บุคคลที่มีความดันโลหิตสูง
  • บุคคลที่มีไขมันในเลือดผิดปกติ
  • บุคคลที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย

สาเหตุของภาวะดื้อต่ออินซูลิน

สาเหตุหลักของภาวะดื้อต่ออินซูลินคือระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน

กลไกการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

  1. เมื่อรับประทานอาหาร ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นน้ำตาล (กลูโคส)
  2. น้ำตาลในเลือดจะกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลิน
  3. อินซูลินทำหน้าที่ลำเลียงน้ำตาลจากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน
  4. หากร่างกายได้รับน้ำตาลจากอาหารมากเกินไปเป็นเวลานาน ตับอ่อนจำเป็นต้องผลิตอินซูลินมากขึ้น
  5. ภาวะอินซูลินสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อ ไขมัน และตับดื้อต่ออินซูลิน
  6. เมื่อเซลล์ดื้อต่ออินซูลิน น้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น ร่างกายจำเป็นต้องผลิตอินซูลินเพิ่มมากขึ้น วัฏจักรนี้หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ

การตรวจวินิจฉัยและติดตามอาการ

                 หากคุณมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ แพทย์จะตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหรือ Hemoglobin A1c (HbA1c) เป็นประจำเพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

อาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน

  • กระหายน้ำมาก
  • หิวบ่อยแม้เพิ่งทานอาหารไป
  • ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกลางคืน
  • รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มตามมือหรือเท้า
  • อ่อนเพลียง่ายกว่าปกติ
  • ติดเชื้อบ่อย
  • ผลเลือดแสดงระดับน้ำตาลในเลือดสูง

                       ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะผิวหนังดำด้าน ซึ่งเป็นลักษณะผิวหนังเป็นปื้นหนาสีคล้ำ มักปรากฏบริเวณท้ายทอย ขาหนีบ และรักแร้ ภาวะผิวหนังดำด้านไม่มีทางรักษาหายขาด แต่หากเกิดจากโรคอื่น แพทย์อาจรักษาโรคดังกล่าวเพื่อให้สีผิวกลับคืนสู่สภาวะปกติ กรณีที่ไม่มีอาการแพทย์มักใช้ผลเลือดในการวินิจฉัยเบาหวานแฝง (Prediabetes) หรือโรคเบาหวาน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง