พ่อค้านอนหลับในรถ กลายเป็นศพในลานจอดรถของ สภ.เมืองขอนแก่น

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ร.ต.ท.จักรีพรรดิ์ เสรพล รอง สว.สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนครว่ามีคนนอนในรถปลุกไม่ตื่น คาดว่าจะเสียชีวิตในรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของ สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ร่วมชันสูตรศพผู้ตาย พร้อมประสานมูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศเข้าช่วยเหลือเก็บร่างผู้เสียชีวิต

เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุพบร่างผู้ตายนอนอยู่ที่เบาะคนขับในรถยนต์โตโยต้า ไฮลักษณ์ สีขาว ทะเบียน บร-208 กาฬสินธุ์ สภาพคล้ายคนนอนหลับ แต่เมื่อทุบกระจกและเปิดประตูฝั่งคนขับกลับพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว โดยมีสภาพแข็งทื่อตายมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายบรรจง ภูหงส์ทอง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ม.7 บ้านหนองโจด ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นคนขับรถและเจ้าของรถคันดังกล่าว

นางวงเดือน กุดแหลม อายุ 65 ปี คนพบศพ เปิดเผยว่า ตนกับนายบรรจงเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน โดยก่อนเกิดเหตุ นายบรรจงได้ขับรถพาตนมาขายสินค้าที่ตลาดบางลำพู ตั้งแต่เช้ามืด เมื่อวางสินค้าขายเสร็จ นายบรรจงก็จะมารอที่รถทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ นายบรรจงไม่กลับมาที่รถตามปกติ ทำให้ตนโทรศัพท์หาหลายสายแต่ไม่ได้รับสาย จึงเดินมาดูที่รถและพบว่านายบรรจงนั่งหลับอยู่ที่เบาะคนขับ โดยไม่ได้มีการติดเครื่องยนต์ จึงเคาะกระจกเรียกแต่ไม่ตื่น

จากนั้นตนได้แจ้งตำรวจมาช่วย เมื่อทุบกระจกและเปิดประตูฝั่งคนขับก็พบว่านายบรรจงเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งภรรยาและญาติพี่น้องของนายบรรจงให้ทราบ

นางวิลัย ภูอุทัย อายุ 52 ปี น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า พี่ชายไม่มีโรคประจำตัวและใช้ชีวิตปกติ ขับรถพาแม่ค้าออกมาขายสินค้าตามตลาดต่างๆเป็นประจำ โดยเมื่อวาน (7 สิงหาคม 2567) ขณะนั่งกินข้าวเย็นกับญาติพี่น้อง พี่ชายได้พูดขึ้นว่าอีกวันสองวันจะไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว แต่ทุกคนฟังแล้วก็เฉยๆ เพราะคิดว่าพี่ชายพูดเล่น

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่าผลการชันสูตรศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สันนิษฐานว่านายบรรจงน่าจะมาส่งแม่ค้าในตลาดแล้วมานอนพักในรถแต่ไม่ได้ติดเครื่องยนต์ ทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หากญาติติดใจสามารถขอดูวงจรปิดในบริเวณลานจอดรถเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

ทางตำรวจจะมอบศพให้มูลนิธินำไปให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.