วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนเทศกาลวันแม่แห่งชาติ พบว่าปีนี้บรรยากาศการซื้อขายเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา แม่ค้าดอกไม้สดหลายรายเผยว่า สถานการณ์ราคาดอกมะลิไทยพุ่งสูงจนต้องหันไปใช้ดอกมะลินำเข้าจากอินโดนีเซียแทน เนื่องจากผลผลิตดอกมะลิไทยในปีนี้ลดลงอย่างมาก สาเหตุหลักมาจากฝนที่ตกหนัก ทำให้รากมะลิเน่าและดอกเสียหาย ผลิตออกมาน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

นางหนูเรียน ชาภูวงษ์ อายุ 65 ปี แม่ค้าดอกไม้สดในตลาดสดเทศบาล 1 กล่าวว่า ปีนี้ดอกมะลิไทยมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1,500 บาท ขณะที่ดอกมะลิจากอินโดนีเซียมีราคาถูกกว่าอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 บาท นอกจากนี้การหาดอกมะลิไทยยังเป็นเรื่องยากขึ้นเนื่องจากผลผลิตที่น้อยลง ทำให้ต้องสั่งนำเข้าดอกมะลินอกมาขายแทน

นางแพงศรี ภูคำไพ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านเจ๊รุ่งดอกไม้สดในตลาดสดเทศบาล 1 ขอนแก่น ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า การใช้ดอกมะลิจากอินโดนีเซียเป็นทางเลือกที่ต้องทำเนื่องจากราคาที่ถูกกว่าและยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเทศกาลวันแม่ได้ แม้ราคาจะถูกกว่าแต่บรรยากาศการค้าขายในปีนี้ก็ยังคงเงียบเหงา เพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้คนใช้จ่ายน้อยลง ราคาพวงมาลัยดอกพุทธอยู่ที่พวงละ 100 บาท ส่วนพวงมาลัยดอกมะลิเริ่มต้นที่พวงละ 150 บาท แต่ยอดขายยังไม่คึกคักเหมือนปีก่อนๆ

การใช้ดอกมะลินอกแทนดอกมะลิไทยในเทศกาลวันแม่ปีนี้สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจและปัญหาผลผลิตที่ต้องเผชิญ แต่แม่ค้ายังคงสั่งดอกไม้มาเพียงพอสำหรับยอดจองของลูกค้าในแต่ละวันเพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง