สารทจีนขอนแก่นเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าโอดเศรษฐกิจฝืด คนรอเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาล

IMG_0751

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศวันจ่ายในช่วงเทศกาลสารทจีน ประจำปี 2567 โดยเฉพาะที่ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าวันจ่ายนี้ไม่คึกคักเหมือนกับช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือวันสารทจีนในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าส่วนใหญ่คาดว่าลูกค้าลดลงไปกว่าครึ่งเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี คนจึงซื้อของไหว้น้อยลง และยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาล โดยขอให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่สานต่อให้สำเร็จ

ขณะที่ตลาดสดบางลำภูร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าจัดโปรโมชั่น เมื่อซื้อครบ 888 บาท รับคูปองเงินสด 40 บาท ด้านราคาของไหว้ในปีนี้ ขนมเข่ง-ขนมเทียนเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 7-8 บาท ไก่ต้มเริ่มต้นตัวละ 220-250 บาท เป็ดต้มเริ่มต้นตัวละ 350-400 บาท และหมูเริ่มต้นชิ้นละ 170-250 บาท

นายอำนวย ลิขิตวัน อายุ 40 ปี พ่อค้าขายกระดาษไหว้เจ้า กล่าวว่า ปีนี้ราคากระดาษไหว้ยังคงที่ ไม่ได้ปรับราคาขึ้นลงเหมือนเป็ด ไก่ เพราะสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าสิ้นเปลืองใช้งานครั้งเดียว คนจึงเริ่มเผาน้อยลง และคนไหว้ใหญ่กันช่วงตรุษจีนไปแล้ว ทำให้การจับจ่ายช่วงนี้น้อยลงมาก

นายอำนวย ลิขิตวัน พ่อค้าขายกระดาษไหว้เจ้า

“พฤติกรรมการซื้อลูกค้าเปลี่ยนไป จากที่เคยซื้อเยอะ ๆ เคยซื้อไหว้ 5 ชุด ก็เปลี่ยนไปเหลือ 1-2 ชุด เพื่อไหว้ตามประเพณี อีกอย่างช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนยังไม่เชื่อมั่นทางการเมือง การที่เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีบ่อย คนก็ยังไม่มั่นใจที่จะใช้เงิน น่าจะมีส่วนที่ยังหาความมั่นคงไม่เจอ สำหรับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท นั่นคือความหวังของประชาชน ยังไงก็อยากให้สานต่อ เพราะคนยังรอการช่วยเหลือจากรัฐบาลอีกเยอะ เพราะให้ความหวังมาแล้ว เหมือนพ่อแม่ที่สัญญาว่าจะซื้อของให้ลูก พูดแล้วต้องทำให้ได้เหมือนที่สัญญาไว้”

นางนิศาชล วงศ์ภูมี แม่ค้าขายของไหว้

ขณะที่นางนิศาชล วงศ์ภูมี อายุ 59 ปี แม่ค้าขายของไหว้ กล่าวว่า ราคาสินค้าปีนี้ขยับขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะไก่สดขึ้นมา กก.ละ 10 บาท ถือว่าขึ้นมาเยอะมาก เพราะแต่ก่อนก็ไม่ได้ซื้อแพงขนาดนี้ โดยราคาขยับขึ้นมาทุกปีไม่มีลง ซึ่งสารทจีนปีนี้ร้านนำมาต้มขายเริ่มต้นตัวละ 220-250 บาท ขณะที่ราคาเป็ดสดขยับขึ้น 10 บาทต่อ กก. นำมาต้มขายเริ่มต้นตัวละ 350-400 บาท ส่วนราคาหมูปีนี้คงที่เท่ากับปีที่แล้วคือ 170 บาทต่อ กก.

“ร้านยังคงตรึงราคาไว้แบบนี้ ไม่กล้าขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะถ้าขายแพงกว่านี้ขายยากมาก จึงต้องยอมแบกต้นทุนไว้ โดยได้กำไรนิดหน่อยพอได้เลี้ยงครอบครัว และมีลูกค้าประจำ ขณะที่พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไป จากเคยซื้อเยอะ ๆ ครอบครัวละ 5-10 ชุด เหลือ 1-2 ชุด ซื้อยากซื้อน้อยลง บางครอบครัวไม่ไหว้เลยก็มี อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น คนไม่มีเงิน และที่สำคัญ คนน่าจะรอเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐบาล”

นางนิศาชลกล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัวรอเงินดิจิทัลเช่นกัน เพราะเป็นความหวัง อย่างน้อยถ้าได้มาช่วงสิ้นปี คนจะมีเงินไปใช้ช่วงปีใหม่และตรุษจีน คนก็จะไปใช้ได้ในปีหน้า จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่สานต่อนโยบายเงินดิจิทัล เพราะนายกฯ คือความหวังของประชาชน เชื่อว่านายกฯ คนใหม่จะนำพาเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะมีที่ปรึกษาที่ดี ยังเชื่อมั่นในคุณทักษิณ ชินวัตร ว่าจะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกสาวและพาเศรษฐกิจไทยดีขึ้น เพราะยอมรับในความสามารถ น่าจะถ่ายทอดมาที่ลูกและช่วยผลักดันให้เกิดความสำเร็จได้

น.ส.อารยานี เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภูขอนแก่น

ด้าน น.ส.อารยานี เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภูขอนแก่น กล่าวว่า บรรยากาศภาพรวมการจับจ่ายซื้อของวันไหว้สารทจีนปีนี้ซบเซากว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดี สารทจีนจะแย่กว่าตรุษจีนเยอะ และนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่คนยังกังวลเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน ราคาของที่แพงขึ้น ถ้าปกติแล้วคนจะออกมาจับจ่ายกันเยอะกว่านี้ แต่ช่วงนี้คนน่าจะกังวลเรื่องเงินในกระเป๋าคิดมากขึ้น

“ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการบ่นว่าราคาสินค้าปีนี้สูงมาก และจะบ่นแบบนี้มาเรื่อย ๆ และเวลาสินค้าปรับราคาขึ้นแล้วจะไม่มีปรับราคาลง และอีกอย่างช่วงนี้จะเป็นการปรับราคาที่แรงขึ้นเพื่อรับเทศกาลอีกนิดหนึ่ง ทำให้ส่งผลกระทบสองเด้ง ขึ้นอยู่แล้ว ยังขึ้นรับเทศกาลอีก ปกติวันไหว้ในเทศกาลตรุษจีน สารทจีน จะมีเป็ด ไก่ ที่ใช้ไหว้ไซส์ใหญ่ ๆ L หรือ XL เท่านั้น ปีนี้มีไซส์ L บางนิด ๆ นอกนั้นจะเป็นไซส์เล็กหมดเลย เพราะราคาที่สูง ถ้าขายราคาสูงกว่านี้ลูกค้าก็ไม่ไหว พ่อค้าแม่ค้าจึงต้องปรับเปลี่ยนไซส์ลงมา แต่คุณภาพยังดีเหมือนเดิม”

น.ส.อารยานีกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เงินดิจิทัล 10,000 บาท คนยังคงมีความหวังและรอคอยอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีคนบางส่วนบอกว่าเลิกหวังแล้ว ไม่รู้ว่าจะออกมายังไง ไม่ชัดเจน คิดว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะสานต่อนโยบายและพยายามที่จะสานต่อ แต่ว่าจะไปต่อได้หรือไม่ไม่ทราบ เพราะปัญหาเยอะมาก ต้องยอมรับความเป็นจริงในหลาย ๆ เรื่อง ในฐานะประชาชนทั่วไปก็รู้สึกกังวลว่า ถ้าได้มาแล้วจะได้แบบไหน และไม่มีความชัดเจน ทุกอย่างคลุมเครือไปหมด เหมือนเป็นนโยบายหาเสียงขายฝัน

“ถ้าถามว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่ ตอนนี้ไม่มีทางเลือก เพราะฉะนั้นต้องหวัง และอีกอย่างที่หวัง เพราะเบื้องหลังที่ปรึกษาคือคนที่เคยทำงานระดับประเทศมาก่อน จะทำงานดีหรือไม่ดีไม่รู้ จะสำเร็จหรือไม่ไม่รู้ แต่ถือว่าเป็นมือเก๋าประสบการณ์ เพราะจริง ๆ แล้วคนที่เป็นนายกฯ และสั่งการน่าจะเป็นคุณทักษิณ ชินวัตร บริหารและเก่งกว่าลูกแน่นอน คิดว่าอาจจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง เพราะจะมีที่ปรึกษาเยอะ ไม่ใช่เฉพาะพ่อเท่านั้น”

?
Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง