สโมสรนักเขียนภาคอีสาน ร่วมกับสมาคมนักประพันธ์ จัดงานมหกรรมอ่านบทกวีอีสาน-ลาวครั้งที่ 6 ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ภายในงานมหกรรมหนังสือภาคอีสาน สานสัมพันธ์ไทย-ลาวโดยใช้วรรณกรรมเป็นสะพานทองเชื่อมมิตรภาพเข้าหากัน
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น สโมสรนักเขียนภาคอีสานแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับ สมาคมนักประพันธ์ลาว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จัดงานมหกรรมอ่านบทกวีอีสาน-ลาวครั้งที่ 6 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ของสองประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก เทศบาลนครขอนแก่นและโครงการวิจัย “การพัฒนานโยบายด้านการค้าการลงทุนรูปแบบใหม่ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-จีน” โดยมีนักกวี นักเขียน จากอีสานและลาวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า ตนเป็นคนชอบอ่านหนังสือและชื่นชมนักเขียน นักกวี รวมถึงศิลปินเพลงเพื่อชีวิต และเคยเป็นนายอำเภออยู่ที่ อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่นมาก่อน ทำให้รู้จักคุณสมคิด สิงสง ศิลปินมรดกอีสานและคนแต่งเพลงคนกับควาย รวมถึงรู้จักศิลปินเพลงเพื่อชีวิตอย่าง นิด ลายสือ ทำให้วันนี้ดีใจที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานมหกรรมอ่านบทกวีอีสาน-ลาว ครั้งที่ 6 นี้ เพราะได้เจอนักคิด นักเขียน และศิลปินหลายท่าน ตนมั่นใจว่าการอ่านหนังสือทำให้ชีวิตใครหลายคนเปลี่ยน โดยเฉพาะงานวรรณกรรมทำให้ได้แง่มุม แง่คิดมากมายกับชีวิตคนเรา
“การเชื่อมความสัมพันธ์สองประเทศด้วยวรรณกรรมถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เพื่อนบ้านสองประเทศไปมาหาสู่กันด้วยงานวรรณกรรมเช่นนี้ ขอชื่นชมสโมสรนักเขียนภาคอีสานแห่งประเทศไทยและสมาคมนักประพันธ์ลาวของสปป.ลาว ที่ได้กระชับมั่นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานมากว่า 35 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง”นายประจวบ กล่าว
ด้านนายชาตรี เสงี่ยมวงศ์ ประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน กล่าวว่า การเชื่อมสัมพันธ์สองประเทศ ด้วยวรรณกรมนั้นทางสโมสรนักเขียนภาคอีสานได้ดำเนินการมายาวนานกว่า 35 ปีแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ได้เชื่อมสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านผ่าน Soft power อีกองค์กรหนึ่งด้วย และงานมหกรรมอ่านบทกวีอีสาน-ลาวครั้งที่ 6 นี้ได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้หัวข้อ “ยุคสมัยรถไฟไทย-ลาว-จีน วรรณศิลปวัฒนธรรมเลิศล้ำโลกสมดุล” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหล่านักคิด นักเขียน ได้สะท้อนมุมมองของตนออกมาผ่านบทกวี ที่ถือเป็นมุมด้านสังคมศาสตร์ที่ถูกบันทึกด้วยถ้อยคำกวีในยุคสมัยนี้
สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้นอกจากการอ่านบทกวีระหว่างนักเขียนสองประเทศแล้ว ยังมีการบรรเลงเพลงเพื่อชีวิต โดยศิลปินเพลงเพื่อชีวิต นิด ลายสือ อีกด้วย พร้อมกับเวทีการอ่านบทกวีด้วยการเต้นบาสโลปเพื่อกระขับความสัมพันธ์อีสาน-ลาว.
Leave a Response