ชาวบ้านในพื้นที่บ้านเหล่าใหญ่ ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ยืนถือป้ายขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ หลังฝนตกหนักทำให้ถนนขาดและน้ำพัดพาทรายเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรจนเสียหายหลายพันไร่ ขณะที่จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน พร้อมเตรียมเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายไม่เกินคนละ 30 ไร่ และใช้งบประมาณฉุกเฉินในการซ่อมแซมถนน รวมถึงเตรียมขุดลอกหนองลุมพุกเพื่อกักเก็บน้ำ

กรณีนี้เริ่มจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 13 ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ได้โพสต์คลิปคุณยายคนหนึ่งยืนร้องไห้ขอความช่วยเหลือลงในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” โดยเรียกร้องให้หน่วยงานราชการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากที่กัดเซาะถนนจนเสียหาย และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 13 ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พบกับนางสุริยาวดี โพธิ์ดู่ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ยืนร้องไห้ในคลิป ซึ่งเธอพร้อมกับชาวบ้านอีกหลายคนได้ถือป้ายขอให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาถนนขาดด้วยการทำเป็นถนนลาดยางเพื่อให้ทนทาน และขุดลอกหนองลุมพุกเพื่อกักเก็บน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่การเกษตร

นางสุริยาวดี เล่าว่า เธอและชาวบ้านได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ มาตั้งแต่ 2 เดือนก่อน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และขณะนี้น้ำเริ่มกัดเซาะสร้างความเสียหายขยายวงกว้างขึ้นจนพื้นที่การเกษตรของเธอและน้องสาวจำนวนกว่า 40 ไร่ถูกทรายปกคลุม เธอกลัวว่าหากยังไม่มีการซ่อมแซมถนน ความเสียหายจะขยายวงกว้างไปอีก เธอจึงตัดสินใจโพสต์คลิปในโซเชียลมีเดีย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือ

นายอดิศักดิ์ กิตติปัญญาศิริ ปลัดอาวุโส อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ชี้แจงกับชาวบ้านว่าทางจังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว และจะมีการชดเชยเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย พื้นที่นาข้าวชดเชยไร่ละ 1,340 บาท และพื้นที่ปลูกอ้อยและมันสำปะหลังชดเชยไร่ละ 1,900 บาท โดยจะจ่ายชดเชยไม่เกิน 30 ไร่ต่อคน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินภายในเดือนกันยายนนี้

ขณะที่ชาวบ้านเสนอให้ทำเป็นถนนลาดยางแทนการทำถนนลูกรัง เพื่อป้องกันปัญหาเดิมซ้ำ และขอให้ทำทางน้ำไหลลงสู่หนองลุมพุกโดยตรง ปลัดอาวุโสฯ รับข้อเสนอนี้ไปพิจารณา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกสบายใจมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวยังได้สำรวจพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้าน พบว่าทั้งไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย และนาข้าวถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดตัวลงและถูกทรายปกคลุมจนไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ หนองลุมพุกก็เช่นเดียวกัน ถูกน้ำพัดทรายเข้าปกคลุมพื้นที่จนกลายเป็นผืนทราย

#ถนนขาดน้ำเซาะ #น้ำพองขอนแก่น #ภัยพิบัติฉุกเฉิน #บ้านเหล่าใหญ่ขอนแก่น #ช่วยเหลือเกษตรกร