ฝนถล่มขอนแก่น กระทบแปลงผัก รากเน่า ดินอุ้มน้ำ ผักแพงขึ้นเท่าตัว

Screenshot

ฝนตกต่อเนื่องกระทบเกษตรกรทำแปลงผักที่ขอนแก่น หลังดินอุ้มน้ำมากเกินไป ผักรากเน่า ไม่โต บางรายต้องหยุดทำแปลงผักชั่วคราว ด้านเจ้าของแปลงผักเผย ต้องปรับราคาผักขึ้นเท่าตัว เพราะผลิตผักยาก แต่ก็ไม่ได้กำไรเท่าที่ควร ขณะที่ราคาผักในตลาดสดหลายแห่งยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 1 ก.ย. 2567 ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษบ้านหนองหญ้าข้าวนก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกผักชุมชน เกษตรกรต้องเร่งกำจัดวัชพืชออกจากแปลงผัก หลังได้รับน้ำฝนจำนวนมาก ทำให้วัชพืชขึ้นโตเร็ว แต่กลับส่งผลให้ผักที่ปลูกไว้ในแปลงโตช้า เนื่องจากดินอุ้มน้ำมากเกินไป ผักบางชนิดรากเน่า บางสายพันธุ์ไม่ผลิดอกออกใบ ทำให้เกษตรกรบางรายต้องหยุดทำแปลงผักชั่วคราวในช่วงนี้ เนื่องจากไม่ประสบผลสำเร็จ ถึงแม้จะได้ราคารับซื้อผักที่สูงขึ้นก็ตาม

นางหนูเดือน มาจุฬา อายุ 67 ปี เจ้าของแปลงผัก กล่าวว่าตนทำแปลงปลูกผักที่นี่มานานกว่า 5 ปี ยอมรับว่าช่วงหน้าฝนนี้ปลูกผักได้ทุกชนิด แต่การเจริญเติบโตเป็นไปไม่เท่าที่ควร โดยเฉพาะผักกาดหอม, คะน้า, กวางตุ้ง, สลัด, ต้นหอม, กระเพรา และผักชีลาว เนื่องจากดินอุ้มน้ำ ทำให้ผักโตช้าและรากเน่า เกษตรกรผลิตผักได้ยากกว่าช่วงหน้าหนาวและหน้าร้อน ชาวบ้านบางรายที่ทำแปลงผักจึงหันไปทำในฤดูกาลอื่นแทน ทำให้ช่วงนี้ต้องขายผักในราคาที่แพงขึ้น จากเดิมผักสลัดขายราคากิโลกรัมละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 30 บาท, ผักกวางตุ้งเดิมกิโลกรัมละ 20 ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 40 บาท, ต้นหอมจากกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท, คะน้าเดิมกิโลกรัมละ 40 บาทปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท, และผักชีลาวจากกิโลกรัมละ 30 บาทปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท สาเหตุที่ปรับขึ้นราคาเนื่องจากผักผลิตได้น้อยลง แต่ช่วงที่ผักออกมาก็มีการปรับลดราคาผักลงเช่นเดิม แต่ก็มีผักบางชนิดที่ชอบน้ำอย่างผักบุ้งจะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนผักชนิดอื่นๆ ตอนนี้เกษตรกรรายได้ลดลง แต่ก็ต้องทนทำเพราะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาผักตามตลาดสดในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าผักหลายชนิดปรับราคาสูงขึ้น บางชนิดขาดตลาด โดยเฉพาะหัวไชเท้าราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 220 บาท ส่วนผักชนิดอื่นๆ ก็มีการปรับสูงขึ้นเกือบเท่าตัว

น.ส.เบญจวรรณ ชอบสุนทร อายุ 49 ปี เจ้าของร้านผักสดแม่พรจิต ตลาดสดเทศบาล 1 กล่าวว่า ผักหลายชนิดปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะหัวไชเท้าจากเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 220 บาท, ต้นหอมเดิมกิโลกรัมละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 110 บาท, ผักกวางตุ้งจากกิโลกรัมละ 50 ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 70 บาท, ผักสลัดจากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70 บาท, คะน้าจากกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท, ผักชีลาวจากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70 บาท, และผักขึ้นฉ่ายจากเดิมขายที่กิโลกรัมละ 70 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนสาเหตุของการปรับขึ้นราคาของผักสดหลายชนิด เกิดจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม แปลงผักผลิตผักได้น้อยลง โดยเฉพาะแหล่งปลูกผักรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกปี จะแตกต่างกับหน้าหนาวและหน้าร้อนที่มีปริมาณผักมากจนล้นตลาด แต่ไม่ว่าจะผักมากหรือน้อยก็กระทบกับยอดขายของทางร้านเช่นเดิม เพราะตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าก็หันมาจำหน่ายผักมากขึ้นด้วย

#ฝนถล่มขอนแก่น #รากเน่าดินอุ้มน้ำ #ผักแพง #แปลงผักเสียหาย #หนองแวงพระยืน

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง