ชายวัย 40 ขับซาเล้งมาผูกพร้อมเพย์ที่ธนาคารหวังจะได้เงินดิจิทัล เผลอลืมเสียบกุญแจรถทิ้งไว้ก่อนถูกมือดีขโมยรถไป แจ้งตำรวจแต่ไม่คืบหน้า ต้องไล่กล้องวงจรปิดหาเบาะแสเอง

IMG_3325

🚨 จ.ขอนแก่น ชายวัย 40 เผลอลืมกุญแจรถ ถูกขโมยซาเล้งขณะทำธุรกรรม

📸 กล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย สวมเสื้อสีดำ ขับผ่านอย่างรวดเร็ว

💬 ครอบครัวรุดตามเบาะแสเองหลังตำรวจยังไม่คืบหน้า

😔 ตำรวจไม่ประสานขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิด

🛵 รถซาเล้งคันสำคัญใช้หาเลี้ยงชีพ หายไปกว่า 3 วัน ยังไร้เงา

#เงินดิจิทัล #ขโมยซาเล้ง #กล้องวงจรปิด #ขอนแก่น #เมืองขอนแก่น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณริมถนนมะลิวัลย์ ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยภาพดังกล่าวบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ชายสวมเสื้อสีดำ อายุราว 40-45 ปี ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (รถซาเล้ง) ผ่านกล้องไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นภาพขณะคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กม-7243 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจอดไว้ริมถนน ห่างจากธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านทุ่ม เพียง 10 เมตร ขณะที่เจ้าของรถลงไปทำธุรกรรมยืนยันตัวบุคคลและติดตั้งระบบพร้อมเพย์

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบกับนายบุญเดช โรจนชาลี เจ้าของรถดังกล่าว โดยนายบุญเดชเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเอง ภรรยา และหลาน ได้เดินทางมาที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านทุ่ม เพื่อผูกบัญชีพร้อมเพย์เตรียมรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล แต่เนื่องจากธนาคารมีคนมาติดต่อจำนวนมาก ทำให้ต้องจอดรถห่างจากธนาคารและรีบลงไปเอาบัตรคิว โดยเผลอลืมเสียบกุญแจทิ้งไว้ในรถ

นายบุญเดชกล่าวว่า “หลังจากได้บัตรคิวประมาณ 7 นาที ผมเดินกลับมาที่รถก็พบว่ารถหายไปแล้ว สอบถามคนแถวนั้นได้ความว่ามีชายคนหนึ่งขับรถออกไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารให้ช่วย แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแนะนำให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เมื่อแจ้งความแล้ว ตำรวจเพียงสอบปากคำเบื้องต้น แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ”

ด้าน นางสาวอารีรักษ์ โรจนชาลี อายุ 33 ปี ลูกสาวของนายบุญเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุไม่มีความคืบหน้าจากตำรวจแต่อย่างใด ครอบครัวจึงต้องขับรถติดตามหาเบาะแสคนร้ายเอง จนกระทั่งได้คลิปจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ขณะนี้ผ่านมา 3 วันแล้ว แต่ยังไร้วี่แววรถซาเล้งที่หายไป เมื่อสอบถามจุดที่มีกล้องวงจรปิด ก็ได้รับแจ้งว่าตำรวจยังไม่ประสานขอข้อมูลใดๆ ครอบครัวรู้สึกผิดหวัง แต่ยังไม่หมดความหวัง ยังคงตามหารถต่อไป เพราะรถซาเล้งคันนี้เป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว

นางสาวอารีรักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้ครอบครัวไม่มีรถใช้ ขาดรายได้ หากต้องซื้อรถใหม่จะต้องใช้เงินกว่า 30,000 บาท ซึ่งเงินดิจิทัลที่ครอบครัวจะได้รับก็ไม่พอแทนที่เสียไป วอนขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ทราบเบาะแส โปรดแจ้งให้ทราบด้วย ตอนนี้ครอบครัวได้แต่หวังว่าจะได้รถคืน”

?

#เงินดิจิทัล #ขโมยซาเล้ง #กล้องวงจรปิด #ขอนแก่น #เมืองขอนแก่น

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง