ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินไปมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน เส้นเลือดตีบอุดตัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การลดระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยหนึ่งในวิธีการรักษาคือการใช้ยาลดคอเลสเตอรอล ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้เฉพาะในบางกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล แพทย์ฝ่ายเภสัชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่ายากลุ่มสแตตินมีประโยชน์ในการลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ยานี้ยังช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดง จึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมอง
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีภาวะหลอดเลือดอุดตัน จะพิจารณาใช้ยาลดคอเลสเตอรอลในกรณีที่ระดับ LDL มากกว่า 190 mg/dL หรือในช่วง 70-189 mg/dL หากมีโรคเบาหวานร่วมด้วย หรือมีความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันในอีก 10 ปีมากกว่า 7.5% ส่วนผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดอุดตันแล้วจะได้รับประโยชน์จากการใช้ยาสแตตินแน่นอน
ข้อควรทราบคือ แม้ไขมันในเลือดอยู่ในระดับปกติ ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมองยังคงต้องใช้ยาสแตตินเพื่อป้องกันโรคกลับมาเป็นซ้ำ ในกรณีที่ยังไม่เป็นโรค หากมีระดับ LDL สูงและความเสี่ยงสูงเท่านั้นจึงควรได้รับการรักษาด้วยยาสแตติน
การควบคุมอาหารเป็นส่วนสำคัญในการลดคอเลสเตอรอล ห้ามบริโภคไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม กะทิ หนังสัตว์ ไขมันทรานส์ และอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่ปลา ตับ รวมถึงอาหารหวาน น้ำตาลสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
Leave a Response