ช่วงเทศกาลกินเจ หลายคนมักตั้งใจทำบุญและดูแลสุขภาพไปพร้อมกันด้วยการงดเนื้อสัตว์ แต่ต้องระวังอาหารเจที่มีรสหวาน มัน และเค็มจัด ซึ่งอาจทำร้ายสุขภาพ โดยเฉพาะไต องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว
เคล็ดลับการกินเจแบบสุขภาพดี
-
- ทำอาหารเอง: การทำอาหารเองช่วยให้ควบคุมวัตถุดิบและเครื่องปรุงได้ดี ลดการใช้ซอสหรือเครื่องปรุงรสเค็ม หันมาใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพรเพิ่มรสชาติแทน ลดการบริโภคซุปหรือน้ำแกงที่มักมีโซเดียมสูง
- เลือกผลไม้แทนขนม: แทนการกินขนมที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ควรเลือกผลไม้ที่ให้วิตามินและกากใยอาหาร ซึ่งช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและให้พลังงานที่ดีต่อสุขภาพ
- เพิ่มผักและธัญพืช: ผักและธัญพืชช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกาย ให้แร่ธาตุและกากใยที่สำคัญ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
- สั่งอาหารลดมัน ลดหวาน ลดเค็ม: ทุกครั้งที่สั่งอาหาร ควรระบุให้ลดปริมาณไขมัน น้ำตาล และโซเดียม ซึ่งจะช่วยให้รสชาติไม่จัดเกินไปและร่างกายปรับตัวให้คุ้นชินได้
- เลี่ยงการปรุงรสเพิ่มเติม: อาหารจานเดียว เช่น ก๋วยเตี๋ยวหรือผัดต่างๆ มักถูกปรุงรสมาแล้ว ควรชิมก่อนเติมเครื่องปรุงเพื่อลดการบริโภคเกลือหรือน้ำตาลโดยไม่จำเป็น
- เลี่ยงเนื้อเทียมและขนมขบเคี้ยว: เนื้อสัตว์เทียมมักทำจากแป้งและมีการปรุงรส ทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินพอดี ขณะที่ขนมขบเคี้ยวมีโซเดียมสูง ควรจำกัดปริมาณการบริโภค
- หลีกเลี่ยงของทอดและน้ำอัดลม: ของทอดมีไขมันสูง ส่วนน้ำอัดลมเต็มไปด้วยน้ำตาล ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานอย่างพอเหมาะเพื่อไม่ให้น้ำหนักขึ้นหลังช่วงเจ
เทศกาลกินเจนี้ หากปรับพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม ไม่เพียงแค่ทำบุญแต่ยังช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างยั่งยืน
Leave a Response