มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ลงกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” โดยมีคลิปเหตุการณ์ที่พลเมืองดีถ่ายส่งให้ผู้โพสต์ เป็นเหตุการณ์ที่มีชายวัยรุ่นผมสั้น อายุประมาณ 25-35 ปี ผิวคล้ำ สวมเสื้อคอกลมสีดำ กางเกงสามส่วน สวมริชแบนสีเหลืองที่ข้อมือขวา สวมรองเท้าแตะ กำลังขโมยเอาเหล็กเส้นและเหล็กกล่องตัว C ที่ใช้ในการก่อสร้างรางท่อระบายน้ำ ภายในซอยหลังศูนย์ราชการ18 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งหลังรวบรวมเหล็กต่างๆได้ ชายดังกล่าวก็ลากเอาเหล็กออกไปทางปากซอยซึ่งเป็นถนนหลังศูนย์ราชการ และยังพบว่ามีชายอีกคนรูปร่างผอม อายุประมาณ 30-40ปี สวมเสื้อยือสีแดงเลือดหมู สวมหมวกสีขาว สวมกางเกงขาสั้น นั่งรออยู่ข้างรถเข็นน้ำ ที่คาดว่าจะนำมาเพื่อบรรทุกเหล็กที่ขโมยออกไป อย่างลอยนวล พร้อมข้อความระบุว่า“ขออนุญาตแอดมินคะ เตือนภัยคะ … พื้นsiteงานก่อสร้างบริเวณถนนหลังศูนย์ราชการ18 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ถูกโจรขโมยของทุกวัน ย้ำว่าทุกวัน จนชาวบ้านแถวนั้นถ่ายรูปและคลิปส่งมาให้ เห็นบอกว่าโจรมีอาวุธด้วย ชาวบ้านเข้าไปห้ามแต่กลับถูกโจรหักมีดข่มขู่ ทำให้ไม่ใครกล้าเข้าไปห้ามอีก และคิดว่าน่าจะเมายาด้วย จึงอยากจะมาเตือนภัยท่านที่อาศัยอยู่แถวละแวกนั้น ให้ระวังทรัพย์สินของท่านด้วยนะคะ สมัยนี้โจรเยอะมากคะ กลางวันแสกๆยังกล้าขโมย แถมต่อหน้าชาวบ้านเยอะแยะด้วย โดนแบบนี้มาหลายรอบ ไม่เคยจับได้ไม่เคยได้ของคืน เลิกคาดหวังว่าจะจับตัวคนขโมยได้ วันนี้เพียงอยากจะฝากบอกว่า ทรัพย์สินใดที่เป็นของครอบครัว บริษัท ข้าพเจ้า ผู้ใดเอาไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ผู้นั้นจงรับเคราะห์ เอาโรคภัย เอาสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวข้าพเจ้าไปด้วย จงรับเคราะห์นั้นไปด้วย”
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์พร้อมลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุ ในซอยหลังศูนย์ราชการ18 ชุมชนศูนย์ราชการ2 ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างรางท่อระบายน้ำรูปตัวยูคอนกรีตเสริมเหล็กและปรับปรุงผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กอยู่ โดยได้พบกับอานุภาพ ศิลปรัศมี อายุ33ปี วิศวกรและผู้จัดการโครงการก่อสร้างของผู้โพสต์ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ โดยได้มอบคลิปวีดีโอดังกล่าวให้วิศวกรผู้คุมงานนำไปเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญากับคนที่ขโมยเหล็กทั้ง 2 คน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใครที่เข้ามาร่วมกันลักพรัพย์ให้ถึงที่สุด
นายอานุภาพ ศิลปรัศมี วิศวกรและผู้จัดการโครงการ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองและคนงานก่อสร้าง เข้ามาทำการก่อสร้างวางท่อระบายน้ำในซอยแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน กระทั้งช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา พลเมืองดีได้โทรมาแจ้งว่ามีคนร้ายมาก่อเหตุลักทรัพย์เหล็กกล่องที่ใช้ในการก่อสร้างวางท่อระบายน้ำออกไป โดยทราบว่าคนร้ายมาก่อเหตุแล้ว2ครั้ง โดยครั้งแรกคนร้ายซึ่งมีท่าทางคล้ายคนเก็บขยะ เข้ามาก่อเหตุเมื่อคืนวันเสาร์ที่5 ตุลาคม เข้ามาเก็บเศษเหล็กชิ้นเล็กๆ เหล็กท่อนสั้น ที่คนงานก่อสร้างตัดและวางทิ้งไว้เพื่อหยิบทำงานได้สะดวก โดยพลเมืองดี ได้มีการเข้ามาตักเตือนว่าเศษเหล็กนั้นคนงานยังใช้งานอยู่ พร้อมทั้งยังนำขวดพลาสติกที่ตนเองเก็บไว้ให้คนเก็บขยะนำไปขายด้วย
จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันอาทิตย์ที่6 ตุลาคม พลเมืองดีสังเกตุเห็นว่า คนเก็บขยะคนเดิมเข้ามาเก็บเศษเหล็กอีก แต่คราวนี้ได้ยกเอาเหล็กซึ่งเป็นเหล็กกล่องยาวประมาน 10 เมตร กว้าง 10เซนติเมตร ประมาณ 10 ท่อน พร้อมทั้งเหล็กเส้น ออกไปด้วย พลเมืองดีคนดังกล่าวจึงจะเข้าไปตักเตือนอีกครั้ง แต่ผู้ก่อเหตุทำทีจะดึงเอาของแหลมที่พกติดตัวออกมาทำร้าย พลเมืองดีเกรงจะได้รับอันตรายจึงรีบกลับเข้าบ้าน แต่ก็ยังรวมความกล้าเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานการก่อเหตุของคนร้ายส่งให้เจ้าของโครงการ ก่อนส่งให้ตนเองนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ขอนแก่น ช่วงบ่ายวันเดียวกัน
นายอานุภาพ บอกกอีกว่า อยากฝากเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี รวมถึงฝากดูแลความปลอดภัยของชาวบ้านในพื้นที่ เพราะทรัพย์สินที่เสียไปก็เป็นค่าใช้จ่าย ราคาเหล็กที่เสียไปถ้าต้องซื้อใหม่เพื่อมาใช้ในงานทดแทนที่ถูกขโมยไปก็หลักหมื่น ส่วนที่คนร้ายเอาไปคงไปชั่งกิโลขาย ซึ่งก็คงได้ราคาหลักร้อย และถ้ายังปล่อยให้คนเหล่านี้ลอยนวล หรือไม่เอาผิด คนเหล่านี้ก็จะได้ใจไม่เกรงกลัว แต่ที่สำคัญคือความปลอดภัยของประชาชน หากคนเหล่านี้เข้ามาทำร้ายอาจเกิดความเสียหายมากกว่าที่คิด จึงฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีเพื่อให้เข็ดหลาบไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก ทั้งยังฝากถึงร้านรับซื้อของเก่าที่รับซื้อของที่คนเหล่านี้นำไปขาย อย่าละเลยเพียงว่าได้ของในราคาถูก การรับซื้อของโจรก็มีความผิดด้วยเช่นกัน///////////
#เตือนภัยขอนแก่น
#ขโมยเหล็กก่อสร้าง
#ศูนย์ราชการขอนแก่น
#ชุมชนปลอดภัย
#ตำรวจเร่งติดตาม
Leave a Response