🔎 แถลงผลคุมเข้มการปราบปรามที่ห้องประชุมศาลากลาง

💊 ยาบ้า 601,800 เม็ด เฮโรอีน 4 กก. ของกลางเดือนเดียว

🛡️ เปิดปฏิบัติการบูรณาการ ตำรวจ-ปกครอง 109 จุดทั่วจังหวัด

🧪 ตรวจหาสารเสพติดเจ้าหน้าที่ พบ 10 ราย ส่งบำบัดทันที

📞 ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส เชื่อมั่นการปราบปราม

🧘‍♂️ ตรวจพระสงฆ์ 63 รูป พบสารเสพติด 2 รูป ลาสิกขา

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พ.ต.อ. ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, นพ. อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และผู้แทน ป.ป.ส. ภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้ยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมตำรวจ-ปกครอง, ป.ป.ส. ทำการกระจายกำลังตรวจค้นพร้อมกันทั้งจังหวัด 109 จุด ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 95 ราย แบ่งเป็นผู้เสพ 72 ราย, ผู้ค้า 23 ราย, อาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืน 9 นัด

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คดีสำคัญในเดือน ต.ค. ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง, ป.ป.ส. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย ของกลางยาบ้า 601,800 เม็ด เฮโรอีน 4,133 กรัม ทั้งนี้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตนเองยืนยันชัดเจนว่าอย่าซ่อนอะไรไว้ใต้พรม อะไรที่เคยทำมายุคที่ตนเองเป็นผู้ว่าฯ ทำไม่ได้ ทุกหมู่บ้าน ชุมชนต้องตรวจค้นและรีเอ็กซเรย์ทั้งหมด ซึ่งผลการปฏิบัติการของปี 2567 ที่ผ่านมา รัฐบาลเลือกขอนแก่นเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องดำเนินการในห้วงระยะเวลาเร่งด่วน 3 เดือน ซึ่งขอนแก่นมีผลดำเนินการเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศและเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน เพราะยาเสพติดเป็นปัญหาที่ยาวนาน เชื่อว่าปัญหาต่าง ๆ จะดีขึ้นได้โดยต้องอาศัยการปฏิบัติการที่จริงจังและต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้ดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติดและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เปิดปฏิบัติการเชิงลึก ปิดล้อมตรวจค้น จับกุมบุคคลตามหมายจับและดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทุกรายให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม

“จากผลการดำเนินการที่ผ่านมารวม 2 ปี พบว่าสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกัน ปราบปราม แก้ปัญหายาเสพติด คือ เมื่อได้รับแจ้งผู้เสพ ผู้ป่วย ผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องรีบดำเนินการ และผู้ป่วย ผู้เสพที่ผ่านการคัดกรอง วินิจฉัยจากแพทย์ ต้องนำเข้าสู่ศูนย์ฟื้นฟูสภาพ หรือ CI โดยทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนและสังคม โดยปัจจุบันพบว่ามีประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน และนายอำเภอทั้ง 26 อำเภอเข้ามาจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน ให้การดำเนินงานด้านยาเสพติดมีความเข้มแข็ง เข้มข้น ต่อเนื่อง”

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ทุกหน่วยจะต้องแข่งขันกันทำงาน มีข้อมูล เบาะแส หรือข่าวสารต่าง ๆ จะต้องประสานและวางแผนการทำงานร่วมกันเพื่อกวาดบ้านให้สะอาด อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้ดำเนินการตรวจหาสารเสพติดในเจ้าหน้าที่และบุคลากรภาครัฐแล้ว 1,767 ราย พบสารเสพติด 10 ราย โดยให้ออกดำเนินการทางวินัยและนำเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน การตรวจหาสารเสพติดในกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ ทำการตรวจ 63 รูป พบสารเสพติด 2 รูป ได้ดำเนินการให้ลาสิกขาและนำเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู และการตรวจหาสารเสพติดด้วยการตรวจปัสสาวะในกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการ ทำการตรวจ 818 ราย พบสารเสพติด 50 ราย ในเขต อ. น้ำพอง ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป