“ปะจัน” โดย “เขี้ยวจัน”
ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้ เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก “ตัวแทน” ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม…[ หน้ารวมบทความ ปะจัน ]
เมื่อภูมิรัฐศาสตร์ทางสังคมเปลี่ยนไป ทุกสรรพสิ่งจึงเปลี่ยนตามไปด้วย….รู้กันว่า “เทคโนโลยี” คือกุญแจดอกสำคัญ ที่ทำให้โลกใบนี้ เปลี่ยนไป โดยสิ้นเชิง ใครยังหลงยุค คงต้อง
”ตกยุค” “ตกกระป๋อง” กันเห็นๆ….
“กรุงเทพมหานคร” ศูนย์กลางความเจริญ มา บัดนี้ มีการกระจายความเจริญไปสู่หัวเมืองตามภูมิภาคต่างๆ สินค้าและบริการ ทยอยออกไปตั้งสาขา สำนักงาน อย่างเห็นได้ชัด เพราะเทคโนโลยีช่วยได้ ทำงานที่ไหนในจังหวัดไหนก็ได้ แถมยังเป็นเรื่องดีของการทำ ESG ที่ดูแลคุณภาพชีวิต ของพนักงาน แรงงาน ซะอีกนะ และพบว่าอีกว่า “เศรษฐีภูธร” รวยกันฉ่ำๆ เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง กันอีกหลายตระกูล
นี่แหละ การค้า การลงทุน มักไปผูกโยงกับการเมืองท้องถิ่น “เศรษฐีภูธร” รวยแบบค้าขาย ขยันอดทน รวยแบบฟ้าแล่บ รวยแบบรับงานสัมปทานของหลวง จึงกลายเป็น “บ้านใหญ่” ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไปโดยธรรมชาติของโลกทุนนิยม
เมื่อร่ำรวย มีเงินทองมาก บริจาคเงินก้อนโต ผู้คนนับหน้าถือตา เป็น “คนดี” โดยพลัน ตัวเองลงสนามเลือกตั้งเอง หรือส่งลูกหลาน เพื่อรักษาฐานของธุรกิจ วน วน กันอยู่แบบนี้ ของท้องถิ่นที่วงสังคมแคบ มองไปก็รู้ ก็เห็นว่า ลูกหลานบ้านไหน…
เมื่อฤดูกาลเลือกตั้ง ระดับท้องถิ่น กำลังจะมาถึง จึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามอง ว่า “บ้านใหญ่” บ้านไหน จะขยับ รองรับพรรคการเมืองจาก “เมืองกรุง” ที่จะตามไปรุมตอม ให้มาเป็นพวกพ้อง ไม่ต่างกับการต่อสายเชื่อมของวงการธุรกิจ ที่ต้องมีสาขากระจายไปทั่วประเทศ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ธุรกิจการเมือง”
“ธุรกิจการเมือง” จึงแปลความว่า เป็น ธุรกิจ การค้า ที่ต้องมี กำไร-ขาดทุน มีการใช้เงินลงทุน ลงคน ลงแรง โดยมี “ซีอีโอ” เดินสายไปขายฝัน ขายนโยบาย ว่าจะทำอย่างโน้น อย่างนี้ ให้พ่อแม่พี่น้อง มีปากท้องที่ดี มีเงินใช้ แจกเงิน ลดราคาค่าน้ำ ค่าไฟ เพิ่มค่าแรง (แต่ไม่เคยบอกว่าจะมีงานทำ ให้ชีวิตมั่นคง ยาวๆ ได้อย่างไร)
ระบบตัวแทน การบริหารราชการแผ่นดิน ผ่าน “ตัวแทน” ระดับท้องถิ่น ผ่านการเลือกตั้งถูกกำหนดตามปฏิทินการเลือกตั้งแล้ว-ตามตารางแนบ
พวกเราจึงเริ่มเห็นปรากฎการณ์ การหาเสียงเลือกตั้ง ที่จังหวัดอุดรธานี “แดง-ส้ม” ปะทะกันเผ็ดๆ ฝ่ายเริ่ม เป็นนักการเมืองรุ่มเก๋าที่กรำศึกเลือกตั้งมานานนับกว่า 20 ปี บาดแผลเหวอะหวะ เต็มกาย และอีกฝ่าย เป็นนักการเมืองฟอร์มสด ผ่านสนามเลือกตั้งนับครั้งได้ แต่ยังไม่เคยเข้าบริหารประเทศ จึงหล่อเหลา ยังไม่มีแผล
เป็นการ ต่อกร ระหว่าง “รุ่นพ่อ” กับ “รุ่นลูก”
คนไทย อาจมองด้วยความสะใจ หลายคนกังวลใจกับ “วังวน” เก่าๆที่ตามมาหลอน แต่พวกเราต้องตระหนักคิดอีกเรื่อง ว่า โลกออนไลน์ เราเห็น คนทั่วโลก ก็เห็นเช่นกัน….
สำหรับนักลงทุนในโลกทุนนิยม เขาคงไม่อยาก นำเงินมาลงทุนในประเทศที่มีประเด็นทางการเมืองที่เผ็ดร้อน เพราะอาจไม่ปลอดภัยกัน “เงินทุน” ของพวกเขา เลือกไปลงทุนในประเทศที่มีปัญหาน้อย…ไม่ดีกว่า รึ…?
การเปลี่ยนผ่าน “ความคิด” และ “ทัศนคติ” ของคน เป็นเรื่องไม่ง่าย บางครั้ง อาจต้องใช้ “ยาแรง” บวกความเด็ดขาด เพื่อส่งต่อ “ชาติ” ไปยังรุ่นลูกหลาน
การเลือกตั้งท้องถิ่น จึงเป็นดัชนีชี้วัด การเปลี่ยนผ่านของบ้านเมืองได้เช่นกัน…
หมายเหตุ : ขอบคุณ ปฏิทินเลือกตั้ง โดย กกต.
Leave a Response