🔍 สนธิกำลังกว่า 300 นายตรวจเข้มทุกพื้นที่
🗣️ ผวจ.ขอนแก่นขอทบทวนนโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย”
🏭 เตรียมจู่โจมสถานประกอบการ-โรงเรียนคุมเข้มแรงงานและเยาวชน
ขอนแก่น ลุยค้นเรือนจำแต่เช้าตอกย้ำมาตรการคุมเข้มยาเสพติดทุกรูปแบบ “ไกรสร” วอนรัฐทบทวนมาตรการผู้เสพคือผู้ป่วย เพราะสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป พร้อมขู่สถานประกอบการอย่าอ้างว่าขาดแรงงานระวังถูกจู่โจมตรวจค้น-ตรวจฉี่ทุกคน
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. 2567 ที่เรือนจำ จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายประจวบ รักแพทย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น, นายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น และนายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ, ทหาร, กองร้อย อส.ขอนแก่นที่ 1, ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ บุกจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางขอนแก่นทุกจุดตามมาตรการจู่โจมตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษร่วมกับหน่วยงานภายนอก
โดยกำลังเจ้าหน้าที่รวมกว่า 300 นายได้เข้าประจำในแดนหญิง, แดนชาย, โรงนอน, ห้องอาหาร, อาคารฝึกฝีมือ, พื้นที่ผักสวนครัวและเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนจะส่งสัญญาณให้กับผู้ต้องขังที่กำลังพักผ่อนอยู่บนโรงนอนได้มารวมกันที่อาคารรวมกลางเพื่อนับยอด ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะตรวจค้นในพื้นที่ตามจุดต่างๆ และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของผู้ต้องขังตามมาตรการของจังหวัดและกรมราชทัณฑ์อย่างเข้มงวด
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การปฏิบัติการตรวจค้นเรือนจำ เป็นมาตรการที่สำคัญที่จังหวัดสนธิกำลังร่วมทุกหน่วยงานเข้าปฏิบัติงานทุกเดือน เช่นเดียวกันกับเรือนจำที่ดำเนินการคุมเข้มและตรวจค้นตามวงรอบทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังของทุกหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราต้องยอมรับความจริงอย่างที่เรือนจำขอนแก่นมากถึงร้อยละ 70 เป็นคดียาเสพติด และผู้ต้องขังอยู่ในกลุ่มอายุวัยแรงงาน ดังนั้นการป้องกันและปราบปรามจะต้องบูรณาการและประสานการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายและทำทุกวันไม่มีวันหยุด
“นโยบายผู้เสพ คือผู้ป่วย ควรที่จะพูดคุยและทบทวนกันใหม่ เพราะมีหลายเหตุการณ์หรือหลายกรณีที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ วันนี้ศูนย์บำบัดฟื้นฟู หรือ CI ขอนแก่น เราทำจริงจัง นำผู้เสพมาบำบัดรักษา แต่สิ่งที่ได้รับคือครอบครัวหรือชุมชนสบายเพราะรู้ว่าตัวตึงในพื้นที่นั้นถูกนำมาควบคุมและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องทำและทำต่อไปแม้จะเกษียณอายุราชการในปี 2568 ก็ตาม”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ความเข้มข้นจากนี้ไปคือจะไปที่สถานประกอบการ คืออย่ามาอ้างว่าขาดแรงงานจนทำให้แรงงานต้องเข้าสู่วังวนยาเสพติด ซึ่งตอนนี้เรามีข้อมูลแล้วและจะต้องจู่โจมตรวจค้นโรงงานและตรวจปัสสาวะพนักงานรวมทั้งผู้จัดการโรงงานบางแห่งในเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกันกับโรงเรียนที่จะมีการพูดคุยกันกับผู้บริหาร ครูฝ่ายปกครอง และสารวัตรนักเรียน เพื่อกำหนดมาตรการการป้องกัน, ป้องปรามและปราบปรามในสถานศึกษาอย่างเข้มงวดและจริงจังอย่างต่อเนื่องต่อไป
Leave a Response