📸 นักท่องเที่ยวโพสต์กังวลข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

🏢 ผับดังแจงเหตุ ตรวจเข้มตามนโยบายจังหวัด

🚔 ตำรวจ-ปกครองเร่งตรวจสอบ พร้อมย้ำไม่ควรถ่ายบัตร

นักท่องเที่ยวไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน ถูกถ่ายภาพ-สแกนบัตรประชาชนก่อนเข้าโดยไม่แจ้ง หวั่นข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลให้แก๊งธุรกิจสีเทาและกลุ่มมิจฉาชีพ ขณะที่ตำรวจ-ปกครองเร่งตรวจสอบ ยืนยันไม่สามารถทำได้ ทำได้เฉพาะขอดูบัตร ในส่วนของผับดังกล่าวชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กยืนยันไม่นำข้อมูลลูกค้าไปขายหรือเผยแพร่ และงดการตรวจบัตรด้วยวิธีถ่ายภาพและสแกนบัตรประชาชนไปก่อน

มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเกิดความกังวลและไม่สบายใจหลังมีข่าวร้านเหล้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่, จ.นนทบุรี ถ่ายบัตรประชาชนของลูกค้าไปขายในกลุ่มสายเทา โดยระบุข้อความว่า “มีร้านเหล้าร้านหนึ่งในขอนแก่น เวลาตรวจบัตรการ์ดเอามือถือขึ้นมาถ่ายบัตรประชาชน อันนี้คือครั้งแรก ครั้งที่ 2 มีเครื่องสแกนข้อมูลพร้อม เอาจริงๆ ไม่สบายใจเลย กลัวโดนเอาข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตรวจบัตรปกติก็พอไหม แล้วเวลาถ่ายไม่ขออนุญาตด้วย

สงสัยว่าถ่ายทำไม สแกนข้อมูลทำไม คือบัตรประชาชนมันเป็นข้อมูลส่วนตัวไหม” ซึ่งหลังจากผู้โพสต์โพสต์ลงในสื่อโซเชียลมีเดียก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก เพราะเจอเหมือนกัน ซึ่งแต่ละคนต่างกังวลถึงความไม่ปลอดภัยในเรื่องของข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายให้กับกลุ่มมิจฉาชีพและกลุ่มสายธุรกิจสีเทาเพื่อเป็นบัญชีม้า

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยวสถานบริการดังกล่าว (เจ้าตัวขอไม่เปิดตัวตน) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวเคยไปเที่ยวที่ร้านนี้ 2 ครั้งแล้ว โดยลักษณะของร้านนี้เป็นร้านที่นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวต่อเพราะเปิดในเวลา 23.00 น. โดยครั้งแรกที่ไปนั้นตั้งแต่หลายเดือนก่อน ไปถึงก็ยื่นบัตรให้ตรวจปกติ ก่อนที่พนักงานที่อยู่ด้านหน้าจะถ่ายรูปบัตรประชาชนของตนเองเอาไว้และให้เข้าไปในร้าน โดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะถ่ายรูป ตนเองก็ตกใจจึงสอบถามการ์ดว่าถ่ายทำไม ซึ่งการ์ดของร้านบอกว่าต้องถ่ายครับถึงจะเข้าไปได้ ทำให้เราเกิดความไม่สบายใจ ก็ได้ไปถามพีอาร์ ถามพนักงานด้านในอีกครั้ง ซึ่งทุกคนบอกว่าต้องถ่าย แต่ปกติเท่าที่ตนเองเคยไปเที่ยวไม่เคยเจอลักษณะแบบนี้ ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่เคยเจอ ไปร้านไหนก็ไม่เคยเจอ จึงเกิดความกลัวเพราะสมัยนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เยอะ มีมิจฉาชีพเยอะเหมือนที่มีข่าวจึงเกิดความไม่สบายใจ ครั้งที่สองไปเที่ยวอีกรอบเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ครั้งนี้ถูกสแกนบัตรประชาชนแทนการถ่ายภาพ ซึ่งก็ได้สอบถามอีกครั้งว่าทำไมต้องสแกน โดยพนักงานที่ทำการสแกนบอกว่าเป็นการตรวจบัตรปกติ ซึ่งก็ถามพีอาร์ ถามพนักงานที่ร้านเหมือนเดิมเพราะไม่สบายใจและมีการคุยกับเพื่อนตลอดว่าไม่สบายใจที่ถูกนำบัตรประชาชนไปสแกน ก่อนที่จะเห็นข่าวเมื่อวานที่ผ่านมาว่ามีกรณีร้านเหล้าถ่ายภาพบัตรประชาชนลูกค้าแล้วนำไปขายให้กับกลุ่มสีเทา จึงนำเหตุการณ์ที่ตัวเองพบเจอมาโพสต์ เพราะเป็นเหตุการณ์เหมือนกันกลัวว่าจะถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดี

บอกอีกว่า เครื่องสแกนจะมีลักษณะเครื่องสีดำตั้งขึ้นแล้วนำบัตรประชาชนมาเสียบลงไป ไม่เหมือนกับเครื่องสแกนที่ธนาคารใช้ แต่ก็ไม่เคยเห็นเครื่องแบบนี้มาก่อน และทุกคนที่มาใช้บริการก็ถูกถ่ายภาพและสแกนบัตรประชาชนเหมือนกันหมด และถ้าจะตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าเพราะกลัวโดนบัตรปลอม ส่วนตัวคิดว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้น และเวลาที่เราไปเที่ยวเราก็พกบัตรประชาชนมาทุกคนอยู่แล้ว หากตำรวจมาตรวจจริงๆ ทุกคนก็สามารถยื่นให้ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ซึ่งร้านก็ไม่น่าจะมีความผิดอะไร ตอนนี้จึงเกิดความกังวลเกี่ยวกับฐานข้อมูลส่วนตัวว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวจะถูกนำไปใช้ให้กับมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มธุรกิจสีเทาเหมือนในข่าว เพราะคนข้างตัวเคยโดนมาแล้วเสียเงินไปแล้วหลายแสน และส่วนตัวคิดว่าจริงๆ แล้วแค่ตรวจบัตรดูอายุก็เพียงพอแล้ว และถ้าร้านจะถ่ายภาพบัตรประชาชนก็ควรแจ้งลูกค้าว่าขอถ่าย ถ้าไม่ให้ถ่ายจะไม่ให้เข้าร้าน แบบนี้ก็พอเข้าใจได้และตนเองก็จะได้ไม่เข้าเพราะว่าเราไม่ได้ยินยอม และสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรายื่นบัตรให้ตรวจแต่ทางร้านนำไปถ่ายภาพ-สแกนบัตรโดยที่เราไม่ได้ยินยอม ซึ่งส่วนตัวจะเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน

ขณะเดียวกันทางสถานบริการดังกล่าวได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กของร้าน โดยระบุข้อความว่า “ขออนุญาตชี้แจงจากทางร้าน เรื่อง การตรวจบัตรลูกค้าในการเข้าสถานบันเทิง เนื่องจากทางร้านได้รับนโยบายจากทางจังหวัด เรื่องการตรวจคัดกรองลูกค้า เรื่องอายุ และเรื่องยาเสพติดอย่างเคร่งครัด จึงมีการตรวจบัตรประชาชนลูกค้าทุกท่านและบางท่านได้ตรวจโดยการสแกนบัตรประชาชนเข้าเครื่องตรวจสอบ และพนักงานบางคนได้ทำการถ่ายบัตรลูกค้าไว้ ทางร้านไม่มีเจตนาจะนำข้อมูลของลูกค้าไปเผยแพร่ใดๆ ทั้งสิ้น และขอยืนยันเจตนาที่แท้จริงเพียงแค่ตรวจอายุเท่านั้น เพราะบางท่านเอาบัตรปลอม บัตรเพื่อน หรือบัตรท่านอื่นมายื่น และบางท่านภาพในบัตรไม่เหมือนตัวจริงจึงเป็นการตรวจสอบให้ละเอียดเท่านั้น #ทางร้านเราขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการนำข้อมูลใดๆ ของลูกค้าออกมาขายหรือเผยแพร่ใดๆ ทั้งสิ้น เจตนาเพียงดำเนินตามนโยบายของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัดเท่านั้น ขอให้ลูกค้าสบายใจในข้อมูลของท่านว่าจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือทำให้เกิดความเสียหายกับท่านอย่างแน่นอน และถ้าลูกค้าท่านใดไม่สบายใจสามารถเข้ามาคุยกับทางร้านได้โดยตรงได้เลยนะคะ ทางร้านขออภัยมาอย่างสูงในการทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดและไม่สบายใจ เรื่องของการสแกนบัตรและถ่ายรูปทางร้านจะทำการยกเลิกไปก่อน และขอความร่วมมือลูกค้านำบัตรประชาชนมาแสดงทุกครั้งหรือให้ลูกค้าโหลดแอป Thai ID เพื่อยืนยันตัวตนด้วยค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวกและขอบคุณมากค่ะ”

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นยังไม่มีใครเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันในกรณีนี้ และยังไม่พบความเสียหาย ซึ่งทางตำรวจเองก็ได้ทำการตรวจสอบในเบื้องต้นจากทางร้านทราบว่า เป็นการเสียบบัตรประชาชนบันทึกข้อมูลของลูกค้า โดยเชื่อมไปที่ไลน์แอดของร้าน เพื่อเป็นการเช็กอายุของผู้เข้าใช้บริการ และเพื่อบันทึกไว้ในระบบของร้าน โดยจะปิดบังเลขบัตรประจำตัวประชาชนไว้ ซึ่งทางตำรวจและฝ่ายปกครองจะได้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบและให้คำแนะนำกับทางร้านในด้านต่างๆ ต่อไป โดยที่ร้านเปิดให้บริการในเวลา 23.00 น.-04.00 น.ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547