กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์ เมื่อมีการแชร์ภาพแพทย์ดึงพยาธิตัวตืดออกจากปากผู้ป่วยที่ปวดท้องหลังรับประทาน “ซอยจุ๊” เนื้อดิบ จนสร้างความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับโรคจากพยาธิ แพทย์จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงให้ความรู้เรื่อง “พยาธิตืดหมู-ตืดวัว” พร้อมวิธีป้องกันง่าย ๆ
รู้จักพยาธิตืดหมู-ตืดวัว
รศ.ดร.พรทิพย์ เหลื่อมหมื่นไวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปรสิตวิทยา อธิบายว่า พยาธิตัวตืดมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ พยาธิตืดหมูและพยาธิตืดวัว โดยตัวอ่อนของพยาธิที่มีลักษณะคล้ายเม็ดสาคูจะพบในเนื้อสัตว์ดิบ หากรับประทานเข้าไป ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตในลำไส้เล็กจนกลายเป็นตัวเต็มวัยที่มีขนาดยาว 2-7 เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ตัวอ่อนพยาธิเหล่านี้มาจากหมูและวัวที่บริโภคเศษดิน หญ้า หรือผักที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ ทำให้เกิดตัวอ่อนในเนื้อสัตว์ ส่วนคนที่บริโภคผักสดปนเปื้อนไข่พยาธิ หรือใช้น้ำไม่สะอาดล้างผัก ก็เสี่ยงเกิดโรค cysticercosis ซึ่งไข่พยาธิอาจเข้าไปฝังตัวในอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง
อาการเมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกาย
ผศ.พญ.ธนิตา สุทธิชัยมงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร ระบุว่า เมื่อพยาธิตัวเต็มวัยในลำไส้เล็กเพิ่มจำนวนมาก อาจทำให้ลำไส้อุดตัน กระเพาะอาหารมีปัญหา เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และอาการคันบริเวณรูทวาร หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น น้ำหนักลด ขาดสารอาหาร หรือพยาธิไชเข้าสมอง ทำให้ปวดหัว ชัก หรือหมดสติ
วิธีป้องกันโรคจากพยาธิตัวตืด
1.รับประทานอาหารปรุงสุกเสมอ: ความร้อนสามารถฆ่าพยาธิได้
2.ล้างผักสดให้สะอาดหลายรอบ: เพื่อลดความเสี่ยงไข่พยาธิปนเปื้อน
3.หลีกเลี่ยงยาฆ่าพยาธิเกินความจำเป็น: เพราะส่งผลเสียต่อตับ
ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าติดพยาธิ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
การตระหนักถึงความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยลดโอกาสติดพยาธิได้ เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลโรคร้ายจากพยาธิตัวตืด
Leave a Response