เหนื่อยง่าย พลังงานลดลง

น้ำหนักนิ่ง แม้ควบคุมอาหาร

หลับยาก ส่งผลต่อเมตาบอลิซึม

ผิวแห้ง สิวขึ้น ระบบขับสารพิษแย่

ปวดกล้ามเนื้อ-ข้อต่อ โดยไม่ทราบสาเหตุ

ท้องอืด ระบบย่อยอาหารผิดปกติ

ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ร่างกายไม่เผาผลาญ

#ระบบเผาผลาญ #ลดน้ำหนัก #สุขภาพดี #เมตาบอลิซึม #ฟิตแอนด์เฟิร์ม

———

รายละเอียด
หลายคนพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด แต่กลับลดน้ำหนักไม่ลง อาจเป็นเพราะ ระบบเผาผลาญ (Metabolism) ทำงานช้ากว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง และสะสมไขมันมากขึ้น

สัญญาณแรกที่สังเกตได้คือ ความเหนื่อยล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือรู้สึกหมดพลังแม้ทำกิจกรรมเบา ๆ เพราะร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ไม่เต็มที่

อีกหนึ่งสัญญาณสำคัญคือ น้ำหนักคงที่ แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งอาจเกิดจากภาวะดื้ออินซูลินหรือฮอร์โมนไม่สมดุล ทำให้ร่างกายไม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาการนอนหลับ ก็ส่งผลต่อการเผาผลาญ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) ผิดปกติ ส่งผลให้รู้สึกหิวบ่อยขึ้นและเผาผลาญแคลอรี่ได้น้อยลง

หาก ผิวแห้งกร้าน หรือมีสิวขึ้น อาจเกิดจากระบบเผาผลาญที่ทำงานไม่ดี ทำให้ร่างกายกำจัดของเสียออกได้ไม่เต็มที่ และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ

ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อบ่อย เป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายเผาผลาญโปรตีนและซ่อมแซมกล้ามเนื้อได้ไม่ดีพอ แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายหนักก็ตาม

นอกจากนี้ อาการท้องอืดและระบบย่อยอาหารผิดปกติ ก็เป็นสัญญาณของระบบเผาผลาญที่ทำงานช้า เนื่องจากร่างกายย่อยอาหารช้าลง ทำให้เกิดแก๊สสะสมและท้องผูกได้ง่าย

สุดท้าย การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ หรือคอร์ติซอลสูง อาจทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานลดลง และทำให้การลดน้ำหนักยากขึ้น

วิธีปรับปรุงระบบเผาผลาญ
รับประทานอาหารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญ เช่น โปรตีนสูง ผักใบเขียว และไขมันดี
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ
ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดที่ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ลองปรับไลฟ์สไตล์ให้สมดุล จะช่วยให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานดีขึ้น และลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ!

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์