“ ปะจัน ”  โดย  “เขี้ยวจัน ”
ปีที่ 3 : ตามที่ใจสั่งมา……..

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้   เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน”  ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น   และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]

การเมืองใกล้ตัว ตัวแทนระดับหมู่บ้าน กำลังจะเลือกตั้ง อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้

ขอนักการเมือง ทำเพื่อบ้านเกิด หมู่บ้านตัวเอง จะมีบ้างไหม ???

รู้ตัว รู้หน้า ไม่รู้ใจ เราจะรู้ได้ไงว่า คนไหน คนดี คนไหน ดจร.-ดัดจริต สร้างภาพ นั่นซิ ดูยาก…แต่คนในหมู่บ้านเดียวกัน ลูก หลาน บ้านไหน พอจะเป็นแนวทางได้บ้างแหละ

เทือกเถาเหล่ากอ พอจะบ่งชี้ พ่อโกง ลูกโกง พ่อเป็นนักเลง ลูกจะเป็นคนดี ต้องมีปาฎิหาร กันมั่งล่ะ ใกล้เลือกตั้ง มักต้องเตรียมการเปิดตัว ใครเป็นใคร ต้องติดตามกันนะ

นักวิชาการ หลายคน เคยมีบทวิจัยไว้ น่าสนใจ และไม่ไกลเกิดแนวคิดของพวกเรานัก เพียงการร้อยเรียงให้เข้าใจง่าย เก็บเป็นเอกสารอ้างอิง อาทิ ดร.สติธร  ธนานิธิโชติ ,ดร. บุญวรา  สุมะโน ระบุถึงภาพลักษณ์นักการเมือง ในฝัน ในความจริงที่ชาติต้องการ

นักการเมือง เป็นตัวแทนของประชาชน ก็ไอ้ที่ไปหย่อนบัตรลงคะแนนให้พวกเขา นั่นแหละ กาเบอร์ไหน ชอบเบอร์ไหน เป็นการมอบอำนาจ มอบฉันทะให้พวกเขาไปเป็นตัวแทน ในการบริหารหมู่บ้าน  ดังนั้น เราควรเลือกคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ของประเทศชาติ ใกล้ตัวมาอีกนิด เหมือนเราเลือกตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุด เมื่ออยู่คอนโด นั่นแหละ ที่เขาต้องดูแลพวกเราทุกห้อง ทั้งคอนโด ข้อนี้เป็นบุคลิก นิสัย ดูไม่ง่าย แต่ให้ดูจากความประพฤติ ว่า เห็นแก่ตัวไหม ช่วยเหลือคนเล็กกว่าไหม

ความรู้ ถูกกำหนดไว้ว่า นักการเมือง ขั้นต่ำต้องจบปริญญาตรี สาขาไหนก็ได้ แต่ลึกลงไปอีก ต้องมีความรู้ทางการเมือง โครงสร้างการปกครองประเทศ ตัวเองอยู่จุดไหน ทำอะไรที่เป็นตัวแทนประชาชนได้บ้าง

ความผูกพันกับอุดมการณ์ มีจริยธรรมทางการเมือง เรื่องนี้สำคัญไม่น้อย มีนักการเมืองถูกทำโทษในเรื่องจริยธรรม จนตกเก้าอี้ ติดคุกกันมาแล้ว อย่างแต่งตั้งบุคคลไม่เหมาะสม เสียบบัตรแทนกัน การเป็นนักการเมืองต้องมีจริยธรรมสูงกว่าประชาชน คือ ศีลต้องสูงกว่า เพราะได้รับเกียรติในการมอบอำนาจ จึงถูกเรียกว่า ท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติ ไงล่ะ

เข้าใจอารมณ์ทางการเมือง และมีประสาทสัมผัสทางการเมือง ครองตัว ในศีลธรรมอันดี ทำเพื่อชาติ มากกว่า ส่วนตน เพราะเมื่อชาติดี มีชัย ตัวเองก็ย่อมดีตามไปด้วย

มีหลายคนพยายาม จะติดตั้งเครื่องมือในการตรวจสอบ นักการเมือง แต่พบว่า ต้องใช้ความพยายาม แรงใจ แรงกาย แรงทรัพย์ ทั้งที่มาสัญญากับประชาชน ตอนเลือกตั้งไว้อย่างไร ใยลืมคำ

โครงสร้างระบบพรรคการเมือง ไล่เรียงลงมาถึง สส. สมาชิกพรรค ต้องอยู่ในแถว ในแนวเดียวกัน ที่ใช้คำว่า “มติพรรค” หากไม่เห็นด้วย เชิญไปหาพรรคใหม่สังกัด แม้ยุคนี้ จะนิยมคำว่า “ผู้สมัครอิสระ” แต่ชาวบ้าน รู้กันว่า สวมเสื้อใคร อมใครไว้ในใจ

หลายคน ลอบถอนหายใจ ว่า  “นักการเมืองไม่โกง ไม่มีอยู่จริง”

……………………………………………………………………………………………………………………………