แผ่นดินไหวเขย่าความมั่นใจคนเมือง
ขอนแก่นยังครองใจ คนอยากย้ายถิ่น
ตรวจตึก-คอนโดอีสาน พบปลอดภัย
ศก.ยังฝืด ชะลอโครงการบ้านใหม่
ปัจจัยหลักคือรายได้ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ
วัสดุก่อสร้างยังนิ่ง ขาดแรงงานฝีมือ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนมายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้ตึกสูงหลายแห่งได้รับผลกระทบ รวมถึงเหตุการณ์ตึกสูง 30 ชั้นถล่มกลางกรุง ส่งผลให้ประชาชนเริ่มหันมาสนใจบ้านและคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานมากขึ้น

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดขอนแก่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีสานพิมาน กรุ๊ป เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย แต่ยืนยันว่าในพื้นที่ภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย มีเพียงแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ในอาคารสูง แต่หลังการสำรวจทั้งตึกเล็กและตึกใหญ่ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท ไม่พบความเสียหายหรือความผิดปกติแต่อย่างใด
โดยในส่วนของคอนโดและบ้านจัดสรรในเครืออีสานพิมาน กรุ๊ป ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางหนีไฟ ที่มักถูกใช้เป็นที่ทิ้งขยะหรือทำรั้วกันขโมย ซึ่งได้สั่งให้มีการตรวจสอบและจัดระเบียบอย่างจริงจังในช่วงนี้ด้วย
นายชาญณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในช่วงเวลาหนึ่ง และส่งผลให้เริ่มคิดถึงการใช้ชีวิตระยะยาว ว่าจะอยู่อาศัยในเมืองใหญ่กับตึกสูง หรือหันกลับไปหาที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ และภาคอีสานที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่สาธารณูปโภค โรงพยาบาล สถานศึกษา และระบบสวัสดิการต่างๆ
เขายังเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ และช่วงโควิด-19 ที่มีประชาชนจำนวนมากย้ายถิ่นฐานมาอยู่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีความพร้อมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงเชื่อว่าน่าจะได้รับอานิสงส์ในทางบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่น่าจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในภาวะฝืดเคือง ส่งผลต่อกำลังซื้อของครัวเรือน
นอกจากนี้ นายชาญณรงค์ ยังเน้นว่า แม้เหตุแผ่นดินไหวจะสร้างแรงกระตุ้นชั่วคราวในการเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย แต่ปัจจัยหลักที่แท้จริงในการตัดสินใจซื้อบ้านคือเรื่องของรายได้ครัวเรือน การวางแผนทางการเงิน และสภาพเศรษฐกิจในระยะยาว จึงคาดว่าในช่วงนี้ไม่น่าจะมีโครงการบ้านจัดสรรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการยังต้องระมัดระวังด้านต้นทุนและความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
อย่างไรก็ตาม เขายังมั่นใจในระบบวิศวกรรมโครงสร้างอาคารของประเทศไทย และการควบคุมตามกฎหมายที่ยังน่าเชื่อถือ ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างยังคงทรงตัว แต่สิ่งที่ขาดแคลนในขณะนี้คือแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต
ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์
Leave a Response