หมอเตือน 3 แบบไข่ไม่เหมาะกับเด็ก
ไข่สุกเต็มที่ดีที่สุดสำหรับทุกวัย
ไข่ไม่สุก เสี่ยงเชื้อ-ดูดซึมได้น้อย
หมอแนะเช็คข้อมูลก่อนเชื่อข่าวลือ

#ไข่ต้มสีเขียวกินได้ไหม
#สุขภาพเด็กเล็ก
#หมอเจเดน
#ไข่สุกดีที่สุด
#โภชนาการเด็ก

ไข่ต้มกลายเป็นประเด็นเมื่อคุณแม่รายหนึ่งโพสต์ถามในโลกออนไลน์ว่าไข่แดงของไข่ต้มที่เธอทำกลายเป็นสีเทาอมเขียว ทำให้แม่สามีเข้าใจว่าไข่มีพิษ กินไม่ได้ สร้างความเครียดให้กับคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกวัยขวบกว่า และไม่มั่นใจว่าไข่แบบไหนจึงจะปลอดภัย

คุณหมอเจเดน กุมารแพทย์ ได้ออกมาอธิบายผ่านเพจเฟซบุ๊ก “傑足先登 傑登醫師” เมื่อวันที่ 4 เมษายน ว่า สีเทาอมเขียวของไข่แดงเป็นเพียงปฏิกิริยาทางเคมีธรรมดาระหว่างกำมะถันในไข่ขาวที่ปล่อยออกมาเป็นก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S) และเหล็กในไข่แดง เกิดเป็นสาร “เฟอรัสซัลไฟด์” (FeS) ที่มีสีเทาเขียว ซึ่งไม่ใช่พิษและสามารถกินได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรกังวลกลับเป็น “ไข่ที่ไม่สุกดี” มากกว่า เพราะอาจทำให้เด็กเล็กเสี่ยงต่อการติดเชื้อและดูดซึมสารอาหารได้น้อย หมอเจเดนได้แนะนำระดับความสุกของไข่และความเหมาะสมในการบริโภคไว้ดังนี้

• ไข่ดิบ: ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เพียง 50% และมีความเสี่ยงเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) สูง ไม่แนะนำให้เด็กเล็กหรือผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำรับประทาน
• ไข่ออนเซ็น: ดูดซึมได้ประมาณ 70% ยังเสี่ยงต่อเชื้อโรค เด็กเล็กควรหลีกเลี่ยง
• ไข่ยางมะตูม: ดูดซึมได้ประมาณ 80% เสี่ยงเชื้ออยู่บ้าง เด็กเล็กไม่ควรกิน
• ไข่สุกเต็มที่: ดูดซึมได้มากกว่า 90% และปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกวัย

คุณหมอสรุปว่า หากต้องการให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนและปลอดภัยที่สุด ควรเลือกไข่สุกเต็มที่ ไม่ต้องกลัวข่าวลือ และควรหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจ

ขณะเดียวกัน นักโภชนาการเฉินเจียนยวี่ จาก “Qian Yu Nutrition and Diet Academy” ก็ยืนยันอีกเสียงว่า สีเขียวของไข่แดงนั้นเกิดจากสารประกอบกำมะถันระหว่างการต้ม เป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย อีกทั้งกำมะถันยังเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่นเดียวกับที่พบในกระเทียม ซึ่งถือเป็นแหล่งของกำมะถันธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ

ทีมข่าวขอนแก่นลิงก์