ขอนักการเมือง ทำเพื่อชาติ… จะมีบ้างไหม ? (ตอน 3)

S__45170692

“ ปะจัน ”  โดย  “เขี้ยวจัน
ปีที่
3 : ตามที่ใจสั่งมา……..

ที่นี่….ไม่ใช่คอลัมน์ร้องทุกข์ แต่เป็น การสังคมอุดมปัญญา ลุกขึ้นมา “ทวงสิทธิ” ของการเป็นพลเมืองผู้ตื่นรู้   เจ้าของคะแนนเสียงที่เลือก”ตัวแทน”  ในทุกระดับ ของการปกครองส่วนท้องถิ่น   และการบริหารบ้านเมือง ด้วยข้าราชการ “ตัวแทน” จากส่วนกลาง ทุกกระทรวง ทบวง กรม [ หน้ารวมบทความ ปะจัน]

การเมืองใกล้ตัว ตัวแทนระดับหมู่บ้าน กำลังจะเลือกตั้ง อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้

ขอนักการเมือง ทำเพื่อบ้านเกิด หมู่บ้านตัวเอง จะมีบ้างไหม ???

เห็นหน้า ตา ผู้สมัครกันไปแล้ว เมื่อ กกต. ประกาศ รับสมัคร ผู้เสนอตัวรับใช้พี่น้องประชาชน ในเขตคามบ้านของตัวเอง ระหว่าง 31 มีนาคม-04 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

เป็น 5 วันที่เชื่อว่า ผู้สมัครทุกคน เตรียมการ ทำการบ้านมาแล้ว ทั้งเตรียมใจ เตรียมทีมงาน ทีมกองเชียร์ จะสอบได้ จะสอบตก เป็นเรื่องปกติ ที่ต้องรับสภาพได้ หากจะอาสามาเป็น “นักการเมือง

ประชาชน กำลังมองหา “นักการเมือง” ที่ทำ เพื่อชุมชน เพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ

คนทำงานอยู่ได้ งานเดิน บ้านเมืองพัฒนา

ไหน ลองมาดู “ค่าตอบแทน” ของตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่นกันหน่อยนะ ว่ากันว่า ส่วนใหญ่พวกเขามีอาชีพกันอยู่แล้ว เช่น นักธุรกิจ อาชีพอิสระ ข้าราชการเกษียณ/ลาออกก่อนสมัคร เป็นอาทิ

ตามธรรมชาติ ของคนทำงาน เวลาสมัครงาน จะต้องกรอกว่า อยากได้เงินเดือน เท่าไหร่ แต่ตำแหน่งทางการเมือง ถูกระบุไว้ชัดเจน ว่ามีค่าตอบแทนเท่าไหร่ รับกันได้ ก็มาสมัคร รับไม่ได้ก็ไปทำงานของตัวเองอย่างเดิม

พบว่า ค่าตอบแทนของการปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับเทศบาล มีอัตราเท่ากัน ระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด-อบจ. เป๊ะ.. เทียบกัน มีโครงสร้างของแต่ละตำแหน่งเดียวกัน หมัดต่อหมัด ตำแหน่งต่อตำแหน่ง เชียวล่ะ

นายกเทศมนตรี ค่าตอบแทน เดือนละ 75,530 บาท รองนายกฯ 45,540 บาท, ประธานสภาฯ 30,540 บาท, รองประธานสภาฯ 25,000 บาท ที่ปรึกษา 13,880 บาท

เลขานุการนายกเทศมนตรี รับค่าตอบแทน  เท่ากับ สมาชิกสภาเทศบาล-สท. คือ 19,440 บาท ต่อเดือน

ลองหันมา เทียบกับ ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด  ตามบัญชีค่าตอบแทนของหน่วยงานราชการ ราว 76,800 บาท ต่อเดือน มีเงินตำแหน่งอีก 29,000 บาท ต่อเดือน

ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 113,560 บาท ต่อเดือน

เงินเดือน ข้าราชการ เริ่มต้น ที่ 18,000 บาท ต่อเดือน

สงสัย สงสัย….คะเน ดูจากค่าตอบแทน “นักการเมือง” ต้องมี “ทุนรอน”  หรืออาชีพส่วนตน รองรับ ไม่งั้น คงไม่พอเลี้ยงชีพ เชื่อว่า พวกเขา คงตรองมาดีแล้ว ที่จะเลือกเส้นทางนี้ หากไม่คิดเข้ามาโกงกิน จริงไหม ?? ดูได้จากตัวเลข รายงานบัญชีทรัพย์สิน รวยกันระดับสิบล้าน ร้อยล้านขึ้นไปทั้งนั้น

สิ่งที่น่าจะเป็น แรงจูงใจ น่าจะเป็น การได้มาซึ่ง “อำนาจ” การปกครอง ที่หลายคนหลงใหล มีแล้ว ต้องมีอีก เป็นอาการ “เสพติดอำนาจ” ตามที่ร่ำลือกัน นั่นแหละ…….

เพี้ยง….ขอให้พวกเขา เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง กันนะ

ขอนักการเมือง ทำเพื่อชาติ… จะมีบ้างไหม ?

……………………………………………………………………………………………………..

Leave a Response

ใส่ความเห็น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง