ขนุนมีน้ำตาล-โพแทสเซียมสูง เสี่ยงต่อโรค
5 กลุ่มสุขภาพไม่ดี ควรงดขนุน
ควรกินหลังอาหาร 2 ชม. ห้ามกินตอนหิว
ขนุนอาจกระทบการนอนตอนกลางคืน
แพทย์เวียดนามแนะระวังพิเศษเรื่องปริมาณ
#สุขภาพดีเริ่มที่การกิน
#ขนุนกินได้แต่ต้องระวัง
#หมอเตือนภัยขนุน
#ผลไม้กับโรคเรื้อรัง
#โภชนาการเพื่อสุขภาพ
“ขนุน” ผลไม้ยอดนิยมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยทั้งระบบย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน และลดความเสี่ยงมะเร็ง แต่กลับไม่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะ 5 กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอย่างจริงจัง
ข้อมูลจากเว็บไซต์โรงพยาบาล Medlatec General Hospital ประเทศเวียดนาม ระบุคำแนะนำจาก Dr.Nguyen Thi Nhung ที่ย้ำว่าขนุนแม้จะดีต่อสุขภาพ แต่บางกลุ่มอาจได้รับผลกระทบด้านลบมากกว่าด้านบวก โดยเฉพาะจากปริมาณน้ำตาลและโพแทสเซียมที่สูง
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ VietNamNet ยังได้อ้างถึง Dr.Bui Dac Sang จากสมาคมการแพทย์ตะวันออกฮานอย ที่ระบุว่า 5 กลุ่มต่อไปนี้ “ไม่ควรรับประทานขนุน” ได้แก่
- ผู้มีภาวะไขมันพอกตับ – ควรงดขนุนเนื่องจากมีน้ำตาลสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตับ อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง – รับประทานได้ในปริมาณน้อย ต้องทำความสะอาดยางให้หมด เคี้ยวให้ละเอียด และควรหลีกเลี่ยงในช่วงบ่ายแก่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนบริโภค
- ผู้ป่วยเบาหวาน – ควรหลีกเลี่ยงขนุนอย่างเด็ดขาด เพราะมีฟรุกโตสและกลูโคสที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง
- ผู้ป่วยโรคไต – โพแทสเซียมสูงในขนุนอาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ส่งผลต่อหัวใจและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือสุขภาพไม่ดี – การรับประทานขนุนมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด หัวใจทำงานหนัก และเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง แพทย์แนะนำให้เลือกกินขนุนอบแห้งในปริมาณเล็กน้อยแทน
นอกจากนี้ Dr.Nhung ยังเน้นย้ำว่า ควรใส่ใจเรื่องเวลารับประทาน โดยควรกินขนุนหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการกินตอนหิว หรือในช่วงเวลากลางคืน เพราะเส้นใยอาหารในขนุนอาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และส่งผลเสียต่อการนอนหลับ
ขณะที่คนทั่วไปสามารถรับประทานได้ในปริมาณพอเหมาะ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ การบริโภคผลไม้ไม่ควรละเลยข้อจำกัดทางสุขภาพเฉพาะบุคคลที่อาจกลายเป็นภัยได้ในระยะยาว
Leave a Response