ชมคลิป
สืบสานพิธีสะเดาะเคราะห์โบราณที่วัดไชยศรี
ใช้ “กระทงเสียเคราะห์” ทำจากกาบกล้วย-ไม้ไผ่
พระสงฆ์สวดภาษาถิ่น เชื่อมจิตใจกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ห้ามหันหลังมองหลังจบพิธี ตัดเคราะห์เด็ดขาด
“สิม” โบราณกว่า 100 ปี เป็นสถานที่ประกอบพิธี
รองผู้ว่าฯ นำประชาชนร่วมพิธีสร้างสิริมงคล
วัด-ชุมชน-รัฐ ร่วมมือจัดงานเชิงวัฒนธรรม
สร้างความสุข-ส่งเสริมท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์
เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 เมษายน 2568 ณ วัดไชยศรี ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้ร่วมพิธีเสียเคราะห์ หรือพิธีสะเดาะเคราะห์แบบโบราณดั้งเดิมในงานบุญสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังคงอนุรักษ์และสืบสานประเพณีดังกล่าวอย่างครบถ้วนตามแบบแผนโบราณ
พิธีกรรมนี้จัดขึ้นภายใน “สิม” หรือโบสถ์อีสานอายุกว่า 100 ปี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ โดยมีการจัดทำ “กระทงเสียเคราะห์” ขึ้นจากวัสดุธรรมชาติอย่างกาบกล้วยและไม้ไผ่ แบ่งเป็น 9 ช่องบรรจุของมงคลตามความเชื่อ เช่น ข้าวตอก ดอกไม้ น้ำส้มป่อย ข้าวหลากสี ด้ายสีต่างๆ รวมถึงสัญลักษณ์ประจำปีเกิด จากนั้นพระสงฆ์ได้ประกอบพิธีด้วยการสวดบทเสียเคราะห์เป็นภาษาถิ่นอีสาน พร้อมการโยงสายสิญจน์จากองค์พระประธานไปยังผู้ร่วมพิธี เพื่อสื่อถึงการเชื่อมโยงจิตใจของมนุษย์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อพื้นบ้าน
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี ผู้เข้าร่วมจะนำกระทงเสียเคราะห์ไปวางในจุดที่จัดเตรียมไว้ โดยมีข้อห้ามสำคัญคือ “ห้ามหันหลังกลับไปมอง” เพื่อให้การสะเดาะเคราะห์นั้นสมบูรณ์อย่างแท้จริง และถือเป็นการตัดขาดเคราะห์กรรมอย่างเด็ดขาดตามความเชื่อที่สืบทอดกันมายาวนาน พิธีกรรมนี้สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานที่ยังคงทรงคุณค่า และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดไชยศรีที่ไม่มีแห่งใดเหมือนในภาคอีสาน
การจัดงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างวัดไชยศรี โรงเรียนในพื้นที่ หน่วยงานราชการ และชุมชนท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมอีสาน สร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่นอกจากจะเป็นวันปีใหม่ไทยแล้วยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนแสวงหาความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตด้วยกิจกรรมทางจิตใจที่ลึกซึ้ง
พิธีเสียเคราะห์แบบโบราณของวัดไชยศรีจึงไม่เพียงแต่เป็นพิธีกรรมที่ทรงพลังทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นการส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น และสร้างความสุขอย่างแท้จริงให้กับผู้คนในช่วงเทศกาลแห่งความชุ่มฉ่ำนี้
Leave a Response