เจ้าของกระบะขนลูกชิ้นโพสต์คลิป “รถพ่วงมีดโหด” จอดขวางกลางถนนมิตรภาพก่อนลงมาจากรถพร้อมกับมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุต เจ้าของกระบะเห็นท่าไม่ดีรีบขับหนี ถูกมีดดาบฟันรถแล้วขับตามมาหาเรื่อง โชคดีมีรถสิบล้อมาช่วยกันเอาไว้จนสามารถรอดชีวิตมาได้ วอนตำรวจเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี

        มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถ บันทึกเหตุการณ์รถพ่วงขับเบียดปาดหน้ารถกระบะขนลูกชิ้นขณะออกตัวจาก 4 แยกไฟแดงถนนมิตรภาพ ในพื้นที่ อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา แล้วสะบัดไปสะบัดมา ก่อนจะจอดขวางถนนมิตรภาพ แล้วมีชายสองคนลงมาจากรถ โดยมีชายคนหนึ่งที่ลงมามีอาวุธมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุตอยู่ในมือ เจ้าของกระบะขนลูกชิ้นจึงตัดสินใจขับฝ่าหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด พร้อมกับโพสต์ข้อความระบุว่า “ผมโดนรถสิบล้อพ่วง รถบรรทุกวัวขับมาจากเส้นทางโคราชมุ่งหน้าบ้านไผ่ ทำร้ายที่สี่แยกบัวลายเวลา19.36-19.40 ใครมีภาพเหตุการณ์ และทะเบียนชัดผมรบกวนขอด้วยนะครับกล้องผมมองทะเบียนไม่ชัด” หลังเจ้าของรถกระบะขนลูกชิ้นโพสต์ลงในโลกโซเชียลตามเพจต่างๆก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์คลิปออกไปเป็นจำนวนมาก

        ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์และลงพื้นที่ไปพบกับ นายเสริมศักดิ์ เพชรสร อายุ 46 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะแคป ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผอ 8087 ขอนแก่น เป็นคนขับในวันเกิดเหตุ พาผู้สื่อข่าวสำรวจร่องรอยความเสียหายจากเหตุการณ์ที่มีชาย 2 คนลงมาจากรถพ่วงแล้วใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่หน้ารถจนเป็นรอยบุบลงไป ยาวประมาณ 10 ซม. พร้อมกับเปิดคลิปจากกล้องหน้ารถทั้งหมดให้ผู้สื่อข่าวดูตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเจ้าของรถหลบหนีไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ สภ.พล จ.ขอนแก่น ก่อนจะขับรถกลับมาที่บ้านในตัว อ.เมืองขอนแก่น

        โดยนายเสริมศักดิ์ เจ้าของรถเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 23 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองขับรถกลับจาก กทม.พร้อมกับลูกน้องอีก 1 คน โดยไปรับลูกชิ้นกลับมาเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า ขณะที่ขับรถกลับมาถึงช่วง 4 แยกไฟแดง อ.บัวลาย จ.นครราชสีมานั้น มีรถพ่วงบรรทุกวัวคันในคลิปขับมาอยู่เลนซ้าย ตนเองอยู่เลนขวา คนขับรถพ่วงได้บีบแตรยาวและเปิดกระจกลงมาพร้อมกับตะโกนโวยวายบางอย่าง แต่ตนเองฟังไม่ถนัดเพราะรถพ่วงอยู่สูงแต่รู้ว่าต้องเป็นคำด่าแน่นอน ตนเองก็บอกกลับไปว่าตนเองไม่มีอะไร และมั่นใจว่าไม่ได้ปาดหน้าหรือขับรถไปเบียดใครแต่อย่างใด พอไฟเขียวตนเองจึงค่อยๆออกตัว เพื่อให้รถพ่วงออกไปก่อนแล้วจึงตามหลังไปแต่จังหวะที่เคลื่อนรถไปนั้น

        รถพ่วงได้พยายามเบียดเข้ามาทางขวาฝั่งรถตนเอง เหมือนจะกันไม่ให้ตนเองไปหรือตั้งใจเบียดให้ตกเกาะกลางถนน ตนเองจึงจอดรถให้รถพ่วงขับไป พอรถพ่วงขึ้นมาเลนขวาขับออกไปก็ขับสะบัดเพื่อจะให้ตัวพ่วงฟาดรถตนเองแต่ตนเองไม่ขับไปจึงไม่ถึงตัวพ่วงฟาด ก่อนที่รถพ่วงจะขับข้ามแยกไฟแดงไปและสะบัดไปมาแล้วขับมาจอดขวางกลางถนนตามในคลิปกล้องหน้ารถ ตนเองจึงจอดไม่เข้าไปใกล้ ก่อนที่ชาย 2 คน อายุน่าจะประมาณ 20-25 ปีทั้งคู่ โดยมีชายคนหนึ่งถืออาวุธมีดเดินนำหน้ามา ลักษณะเหมือนตั้งใจจะใช้มีดฟัน ตนเองจึงตัดสินใจขับรถออกไปทันที เพราะมากับลูกน้องอีกคนกลัวจะได้รับอันตรายทั้งคู่ ก่อนที่ลูกน้องจะหันไปดูก็เห็นชายทั้ง 2 คนรีบขึ้นรถและขับตามมา ตนเองจึงได้โทรแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 191 ทางคนรับสายก็ประสานไปติดที่โรงพักบัวลาย ตนเองก็เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟังว่าโดนไล่ทำร้ายและขับรถตามมา ผ่านไป 5 นาทีรถพ่วงดังกล่าวไล่ตามมาทัน แต่ขณะนั้นโชคดีมีรถสิบล้ออยู่เลนซ้าย 1 คัน ตนเองจึงพยายามไปแอบกับรถสิบล้อที่วิ่งเลนซ้าย และมีรถพ่วงอีกคันขับมาบังรถพ่วงคู่กรณีไว้ให้ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่ารถพ่วงและรถสิบล้อจะเห็นเหตุการณ์หรือไม่แต่ต้องขอบคุณรถพ่วงและรถสิบล้อที่ช่วยกันไว้ให้ ทำให้รถพ่วงคู่กรณีซึ่งมาด้วยความเร็วต้องหักขวาขึ้นแซงไป

        โดยจังหวะที่แซงไปนั้นมีชายเสื้อฟ้าโผล่ออกมาจากหน้าต่างและเหมือนจะตะโกนด่าตนเองก่อนจะขับไปทันที หลังจากนั้นก็โทรแจ้งตำรวจอีกครั้งให้ช่วยเหลือและช่วยสกัดจับรถพ่วงคู่กรณีที่ใช้มีดฟันรถตัวเอง แต่ทางตำรวจ สภ.บัวลายแจ้งว่าอยู่นอกเหนือเขตพื้นที่รับผิดชอบแล้วต้องให้ สภ.พลเป็นคนดำเนินการและวางสายไป ซึ่งตอนนั้นตนเองรู้สึกแย่และกลัว เพราะไม่รู้จะพึ่งพาใครนอกจากตำรวจ เพราะกำลังถูกไล่ตามมาทำร้าย จึงโทรไป 1193 ซึ่งเป็นเบอร์ฉุกเฉินตำรวจทางหลวงแต่ก็อยู่ที่ กทม.ก็สอบถามข้อมูลเบื้องต้นเหมือนกันและจะประสานให้ ตนเองก็โทรไปอีกครั้ง ก็สอบถาบอกว่าท่านประสานตำรวจในพื้นที่ให้ผมหรือยัง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนตนเองขับมาตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้าเข้าขอนแก่นมาถึงป้อมตำรวจ สภ.พลจึงจอดหน้าป้อมตำรวจและลงไปแต่ไม่มีคนอยู่จึงโทรไปที่เบอร์โรงพัก สภ.พล ซึ่งตำรวจ สภ.พล ก็สอบถามและแนะนำดี แต่เหตุการณ์ผ่านช่วงวิกฤติไปแล้วและจะสกัดรถก็อาจจะไม่ทันเพราะคาดว่าคงข้ามไปอีกอำเภออื่นแล้ว ตนเองจึงโทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจทางก็ช่วยประสานงานและออกมาตรวจสอบเส้นทางตนเองจึงกล้าขับรถกลับบ้านในอ.เมือง จ.ขอนแก่น และในวันนี้ตนเองก็จะเข้าแจ้งความที่ สภ.บัวลายในพื้นที่ที่เกิดเหตุกลาง สี่แยก อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา

        ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่ทราบว่าเพราะอะไร ก่อนที่จะเข้ามาถึงสี่แยกบัวลายนั้นก็สังเกตเห็นรถพ่วงคันนี้ขับแช่ขวามาตลอดทาง ตนเองก็ได้แซงซ้ายมาแต่จังหวะที่แซงครั้งแรกนั้นมีรถสิบล้ออยู่เลนซ้ายจึงแซงไม่ได้ ตนเองก็ขึ้นขวาเพื่อรอจังหวะขึ้นแซงซ้ายใหม่อีกครั้ง พอมีจังหวะก็ขึ้นแซงตามปกติ และมั่นใจว่าไม่ได้ขับปาดหน้าหรือเบียดรถพ่วงคันคู่กรณีอย่างแน่นอน และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นด้วย และเชื่อว่าคนที่ลงมาจากรถทั้งคู่นั้น น่าจะมีอะไรบางอย่างในร่างกายที่ไปกระตุ้นแล้วก่อเหตุดังกล่าว เพราะลักษณะตั้งใจมุ่งเข้ามาทำร้ายอย่างเดียว ถ้าตนเองไม่ตัดสินใจขับหนีก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น อยากจะฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงการปฏิบัติขอให้รวดเร็วกว่านี้ การประสานงานนั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับดี แต่การปฏิบัตินั้นช้า อาจทำให้เกิดการสูญเสียก่อนที่ตำรวจจะมา และอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังตั้งสติให้ดีและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะหากเกิดการสูญเสียไม่ใช่แค่เราแต่มีคนข้างหลังมีครอบครัวที่จะได้รับความสูญเสียตามไปด้วย ทั้งนี้ไม่ได้ว่ารถสิบล้อหรือรถพ่วงทุกคันเป็นคนไม่ดี แต่จะเป็นเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น ตนเองมีเพื่อนที่ขับรถพ่วงรถสิบล้อเยอะ ทุกคนก็ไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ ต่างคนต่างทำมาหากินและมีน้ำใจในขณะขับรถ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นภัยสังคมต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก ขนาดตนเองเป็นผู้ชายยังรู้สึกกลัวเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน