พ่อตาเมาเข้าห้ามลูกเขยขี้เมามีปากเสียงกับลูกสาว ก่อนชักปืนลูกโม่ยิงแสกหน้าผากลูกเขยสาหัส แล้วหลบหนีไปบ้านญาติ ถูกตำรวจตามจับคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

        เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เวฬุวัน ควบคุมตัวนายพุทธา หรือพุธ ก้อนกลิ่น อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.10 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันควร ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดเกิดเหตุภายในพื้นที่บ้านเลขที่ 119 ม.10 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ประมาณ 30 นาที การทำแผนก็เสร็จสิ้น ท่ามกลางความสนใจของญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน

        พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวว่า การทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากว่า เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวฬุวัน รับแจ้งเหตุ ทะเลาะวิวาทและยิงกันบาดเจ็บสาหัสภายในบริเวณบ้านเลขที่ 119 ม.10 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจที่เกิดเหตุ

        เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่าคนเจ็บชื่อนายอินแปลง ทนน้อย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 368 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และเป็นลูกเขยของมือปืน คือ นายพุทธา หรือพุธ ก้อนกลิ่น อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.10 บ้านวังตอ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังเกิดเหตุญาติพี่น้อง นำคนเจ็บส่งที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น ส่วนพ่อตาก็หลบหนีไป

        ผกก.สภ.เวฬุวัน กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนภรรยาคนเจ็บและลูกหลานของมือปืน ในเบื้องต้นทราบว่า นายอินแปลง ออกไปทำงานนอกบ้าน และมีการดื่มสุราจนเมามาย กลับถึงบ้าน ด่าลูกเมีย ประกอบกับลูก 2 คนทะเลาะกัน นายอินปลงจึงดุด่าลูก ดังลั่นบ้าน ขณะที่นายพุทธา พ่อตา ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน ก็มีอาการเมาสุราเช่นกัน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน จึงเดินไปดู จนเกิดการทะเลาะกันขึ้น ลูกเขยก็มีการท้าทายพ่อตา พ่อตาจึงเดินไปเอาปืน ลูกโม่ ขนาด .22 มม.ในบ้านมายิงลูกเขย 4 นัด โดยนัดแรกยิงขึ้นฟ้า นัดที่2 และ3 ยิงใส่ตัว นัดที่4 ยิงหน้าผาก จนลูกเขยล้มลงที่สนามหญ้าหน้าบ้าน จากนั้นนายพุทธา พ่อตาก็ถือปืนไปทิ้งที่ข้างบ้านแล้วหลบหนีไปที่บ้านน้องสาว ที่หมู่บ้านโนนศรีสวัส ม.3 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เวฬุวัน จึงติดตามจับกุมได้ และนายพุทธา ให้การรับสารภาพว่า ทนเห็นลูกเขย ด่าลูกสาวกับหลานมาหลายปีแล้ว บางครั้งก็ด่าถึงบุพการี แต่ในครั้งนี้ก่อนจะเกิดเหตุยิงลูกเขย ได้เข้าไปห้ามปรามไม่อยากให้ด่าเมีย ด่าลูก แต่ลูกเขยไม่ฟัง ยังท้าทาย จึงไปเอาปืนในบ้านออกมายิงลูกเขยบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

        ขณะที่นายพุทธา ก้อนกลิ่น อายุ 84 ปี ผู้ต้องหา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำไป เพราะอดทนกับลูกเขยคนนี้มานานแล้ว ด่าเมีย ด่าลูก ด่าพ่อแม่ มันไม่ใช่เรื่องดี แต่ก่อนจะยิงนั้น ได้ห้ามแล้ว แต่ลูกเขยไม่หยุด จึงขู่ว่าถ้าไม่หยุดจะเอาปืนมายิง ลูกเขยก็ท้าให้เอามายิง จึงไปเอาปืนในบ้านมายิงลูกเขย โดยไม่ได้ตั้งใจจะยิง แต่ลูกเขยถลาเข้ามาหาคล้ายจะทำร้าย จึงยิงปืนขู่ ก็ยังไม่หยุดจากนั้นจึงยิงลูกเขย ที่ตัวและที่หน้าผาก จนบาดเจ็บดังกล่าว หลังก่อเหตุด้วยความตกใจจึงหนีไปหาน้องสาวที่อำเภอน้ำพอง และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ และด้วยอายุมากแล้วก็อยากให้ลูกๆไปประกันตัวออกมา

        ในขณะที่ นางสาวควรคิด ก้อนกลิ่น อายุ 44 ปี ลูกสาวมือปืนและเป็นภรรยาคนเจ็บ กล่าวว่า ยอมรับว่า ทุกครั้งที่สามีดื่มสุราเมา กลับมาถึงบ้าน สามีจะด่าด้วยคำรุนแรง แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย ในครั้งนี้สามีกลับเข้าบ้านด้วยอาการเมาสุรา มาถึงบ้าน ลูก2 คนกำลังทะเลาะกัน สามีจึงห้าม แต่ห้ามด้วยเสียงที่ดัง และพูดไปต่างๆนานา พ่อได้ยิน อาจจะเข้าใจผิดว่าลูกเขยด่าตัวเอง จึงออกจากบ้านมาห้าม แต่สามีเมา พูดไม่รู้เรื่อง ตนจึงไม่สนใจ เดินไปหลังบ้าน ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืน4 นัด ออกมาดูก็เห็นพ่อเดินถือปืนหนี ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บนอนที่สนามหญ้า และเมื่อเหตุการณ์บานปลายเช่นนี้ ก็คงต้องปล่อยทุกอย่างไปตามกฎหมาย และคงไม่ประกันตัวพ่อ เพราะไม่มีเงิน ส่วนสามีก็รักษาตัวในโรงพยาบาลจนกว่าจะหาย

        ภายหลังการทำแผนพนักงานสอบสวนสภ.เวฬุวันได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป